ผบ.พล.ร.9 สนับสนุน ฮ.ให้นายก อบต.ไล่โว่ นำทีมแพทย์-พยาบาล เดินทางเข้าทุ่งใหญ่ฯ เพื่อฉีดวัคซีนเข็ม 2 ให้ชาวบ้านจะแก หลังพบอุปสรรคฉีดเข็มแรก ต้องลุยป่าถึง 6 วัน 5 คืน
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา นายก อบต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นำ นพ.ปัญญา สุนทรฐิติ ซึ่งเป็นแพทย์จิตอาสาจาก กทม. พยาบาลจากโรงพยาบาลสังขละบุรี 4 คน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อบต.ไล่โว่ เดินทางเข้าพื้นที่บ้านจะแก หมู่ 6 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกองกำลังสุรสีห์ โดย พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 (กองกำลังสุรสีห์) โดยมี พ.ท.เวหา วิมลโนช นักบินที่ 1 ร.อ.กิตติพงศ์ สวัสดิ์ทิม นักบินที่ 2 จ.ส.อ.ดลวัฒน์ จันทร์หอม จ.ส.อ.ชัยพร พรเจริญ จ.ส.อ.วุฒิพงศ์ วงศ์เพชรอ่อน (ช่างเครื่อง) ช่วยในการลำเลียงเวชภัณฑ์ วัคซีน รวมทั้งคณะแพทย์และพยาบาล
นายสมชายเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา คณะแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ อบต.ไล่โว่ ได้เดินทางด้วยรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ เข้าไปฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับชาวบ้าน โดยต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางเข้า-ออกเป็นเวลา 6 วัน 5 คืน ท่ามกลางอันตรายจากเส้นทางและน้ำป่า ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาในพื้นที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เส้นทางได้รับความเสียหาย น้ำในลำห้วยต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น บางช่วงของเส้นทางได้รับความเสียหายจากดินโคลนถล่ม รวมทั้งมีต้นไม้ใหญ่ล้มลงปิดเส้นทางจนไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้ จึงขอสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ในการเดินทางวันนี้
ด้าน นพ.ปัญญากล่าวว่า การเข้าไปดำเนินการฉีดวัคซีนในวันนี้ เป็นการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ซึ่งประกอบด้วย วัคซีนซิโนฟาร์มที่ชาวบ้านลงทะเบียนไว้กับ อบต.ไล่โว่ 62 โดส และวัคซีนซิโนแวค ซึ่งได้รับการจัดสรรมาจาก รพ.สังขละบุรี 80 โดส นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่เดินทางมารับวัคซีนเข็มที่ 1 หลังจากพลาดการฉีดเมื่อครั้งที่ผ่านมา โดยนอกจากชาวบ้านแล้วยังมีการฉีดวัคซีนให้พระภิกษุสงฆ์ที่จำวัดในพื้นที่ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร รวมทั้งครูโรงเรียนบ้านหินตั้ง จำนวน 22 คน และเจ้าหน้าที่ อสม.บ้านจะแก อีกด้วย
นพ.ปัญญากล่าวว่า การฉีดวัคซีนเข็ม 2 ในวันนี้เป็นไปตามขั้นตอนและมาตรฐานที่กระทรวง สธ.กำหนด ภายใต้การควบคุมของแพทย์ โดยมีการวัดความดันและซักประวัติก่อนดำเนินการฉีดวัคซีน และสังเกตอาการหลังการฉีดจนครบ 30 นาที ก่อนจะทำการวัดความดันอีกรอบก่อนกลับบ้าน พร้อมคำแนะการดูแล และสังเกตอาการของตนเองภายหลังการรับวัคซีนจากแพทย์ ซึ่งพื้นฐานของชาวบ้านที่นี่เป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรงอยู่แล้ว ทำให้ยังไม่พบผู้ที่รับวัคซีนแล้วมีอาการช้างเคียงที่รุนแรง
สำหรับ บ้านจะแก มีบ้าน 372 หลัง ประชากร 2,512 คน ประชาชนเป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง ประกอบอาชีพทำไร่ ปลูกข้าวไว้บริโภคเอง ทำปศุสัตว์ ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร (ทิศตะวันตก) ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลและมีความยากลำบากในการเดินทาง โดยห่างจากตัว อ.สังขละบุรี ประมาณ 80 กม. มีแนวเขตติดต่อกับ ต.แม่จัน อ.อุ้มผาง จ.ตาก
ซึ่ง ต.ไล่โว่ เป็นชุมชนของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงดั้งเดิม ที่อาศัยอยู่ในพื้นมานานกว่า 300 ปี ปัจจุบันมีประชากรที่มีสัญชาติไทย 6,124 คน นอกจากนี้ ยังมีประชากรที่ยังไม่ได้รับสัญชาติไทยอาศัยอยู่อีกจำนวนหนึ่ง
ต.ไล่โว่ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพื้นที่แห่งหนึ่งในประเทศไทยที่เดินทางเข้ายากลำบากที่สุด โดยเฉพาะบ้านจะแก ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลที่สุด เนื่องจากเส้นทางที่ประชาชนใช้สัญจรเป็นเส้นทางลำลองในป่า ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน และต้องข้ามแม่น้ำลำธารต่างๆ (โดยเฉพาะลำห้วยดงวี่) สลับกับเขาสูงชัน และเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน การเดินทางต้องใช้เวลาเดินทางหลายวัน
ทั้งนี้ การเดินทางเข้าไปฉีดวัคซีนให้ประชาชนถึงหมู่บ้านในวันนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งหากให้ประชาชนเดินทางออกมาที่โรงพยาบาลสังขละบุรี เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ที่สำคัญบ้านจะแกมีพรมแดนธรรมชาติติดกับประเทศเมียนมาที่กำลังเผชิญกับวิกฤตการระบาดโควิด-19 จึงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญ เนื่องจากหากมีผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่นี้ จะก่อให้เกิดปัญหาในการป้องกัน รวมทั้งการรักษา เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกล และมีความยากลำบากในการเดินทาง
ปัจจุบันเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน หากประชาชนเกิดเจ็บป่วย และมีความจำเป็นต้องเดินทางเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลจะต้องอาศัยการส่งต่อผู้ป่วยผ่านสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินฯ โดยต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ของหน่วยงานราชการในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ทหาร ตำรวจ มารับผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล
