สภ.นนทบุรี ออกหมายเรียก-แจ้งข้อหา ผู้ชุมนุมท่าน้ำนนท์ทำนายกฯขึ้นฝั่งไม่ได้

สภ.นนทบุรี ออกหมายเรียก-แจ้งข้อหา ผู้ชุมนุมท่าน้ำนนท์ทำนายกฯขึ้นฝั่งไม่ได้

นนทบุรี “รอรับได้เลย ไม่เคยบิดพลิ้ว” ตร.ไล่เช็คบิล ออกหมายเรียก กลุ่มผู้ชุมนุม ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ทำลุงตู่ขึ้นท่าน้ำนนท์ ไม่ได้
วันที่ 4 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเมื่อวันที่ 30 ก.ย.64 ที่ผ่านมา ได้มีหมายกำหนดการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะทีมรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์ น้ำท่วมของจังหวัดนนทบุรี ซึ่งหมายกำหนดการแรกทางคณะได้ลงขึ้นเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจุดเริ่มต้นบริเวณท่าน้ำปากเกร็ด และล่องเรือมาแจกถุงยังชีพ ให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมนอกแนวสันเขื่อนบริเวณ ท่าน้ำตลาดขวัญจำนวน 60 หลังคาเรือน

ทั้งนี้ต่อมาตามหมายกำหนดการช่วงเวลา 15.00น.ต่อไป เป็นช่วงตรวจสถานะการณ์น้ำท่วมจุดสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและทีมคณะนายกฯ จะต้องล่องแม่น้ำขึ้นเรือมาลงยังบริเวณ ท่าน้ำนนท์ หรือหอนาฬิกาท่าน้ำนนท์ เพื่อร่วมทำกิจกรรม เยี่ยมชม ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี (หลังเก่า) ที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมเดินตรวจเยี่ยมพบปะพี่-น้อง ประชาชนชาวนนทบุรี ซึ่งทางเทศบาลนครนนท์ได้ขึ้นป้ายรูปนายกและข้อความให้การต้อนรับทางคณะอย่างอบอุ่น
แต่หมายกำหนดการในจุดสุดท้าย บริเวณท่าน้ำนนทบุรี แห่งนี้ต้องถูกเปลี่ยนแผนยกเลิกอย่างกระทันหัน เพราะทางเจ้าหน้าที่ได้รายงานให้ทางทีมงานและคณะนายกฯทราบเรื่องถึงมีกลุ่มผู้ชุมนุม ที่เห็นต่าง เป็นกลุ่มของผู้รักประชาธิปไตยจำนวนมากมารอคอยต้อนรับ นายกรัฐมนตรีและคณะอยู่บริเวณดังกล่าว อย่างเนื่องแน่น ซึ่งเจ้าหน้าที่และทีมงานรักษาความปลอดภัย เกรงว่าอาจจะเกิดความวุ่นวายขึ้นได้ ทางทีมคณะนายกรัฐมนตรีจึงปรับเปลี่ยนแผนการขึ้นฝั่งและการทำกิจกรรมในจุดดังกล่าว ออกไป และเลื่อนการขึ้นเรือไปที่บริเวณท่าน้ำเกียกกายในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อยู่ห่างออกประมาณ 7 กิโลแทน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดความวุ่นวายและการเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าว

ขณะที่บริเวณจุดท่าน้ำนนท์ดังกล่าวได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน และตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี ทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมประกาศให้มวลชนกลุ่มผู้ชุมนุมแยกย้ายกันกลับบ้าน และได้ประกาศถึงข้อบังคับความผิดตามกฎหมายของประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้มวลชนทราบ และห้ามฝ่าฝืนตามข้อกำหนดของกฎหมาย

Advertisement

ซึ่งต่อมาทำให้ทางมวลชนกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาคอยต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะทีมงาน ต่างไม่พอใจ มีการขว้างปาน้ำปลาร้าเข้าใส่ ขบวนรถยนต์ของนายกรัฐมนตรีและคณะทีมงาน ที่ได้รีบขับออกไปจากพื้นที่ หลังกลุ่มผู้ชุมนุมทราบข่าวว่าทางนายกรัฐมนตรีและคณะทีมงานได้ล่องเรือขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำเกียกกายไปแล้ว จึงได้พากันแยกย้ายและเดินทางกลับบ้าน

Advertisement

โดยต่อมากลุ่มผู้ชุมนุมที่ได้มาชุมนุมรวมตัวรอต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะทีมงานนายกฯตรวจน้ำท่วม ในวันและเวลาดังกล่าว ได้รับหมายเรียกจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ในตอนนี้เกือบ 10 คนแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทยอยส่งหมายเรียกออกไปตามบุคคลที่พบหรือปรากฎตัวในภาพหรือบุคคลที่ถูกพิสูจน์ทราบได้ ตามความผิดทางกฎหมายของการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐาน “มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ไม่ยอมเลิกการมั่วสุมเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิก และ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อ 5ห้ามการชุมนุม ฯ ”

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องรับโทษตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image