2 หนุ่มเชียงรายเข้าพบ ตร. จัดคาร์ม็อบเดือน ส.ค. ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ลั่นกิจกรรมไม่ใช่ต้นตอแพร่โควิด
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ตุลาคม ที่ สภ.เมืองเชียงราย นายสราวุทธิ์ กุลมธุรพจน์ อายุ 37 ปี และนายภูวิศิษฎ์ ประยูรส่วน อายุ 38 ปี ชาว จ.เชียงราย แกนนำกลุ่มคาร์ม็อบ จ.เชียงราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ พงษ์ทิตย์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย หลังถูกแจ้งข้อกล่าวหา “ฝ่าฝืนประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การกระทำกิจกรรม การมั่วสุมที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19, ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย เรื่อง กำหนดมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19,ใช้สัญญาณเสียง (บีบแตร) โดยไม่มีเหตุจำเป็น ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต”
เหตุดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มคาร์ม็อบได้จัดกิจกรรมชุมนุมด้วยรถยนต์และจักรยานยนต์หลายครั้งในเขต อ.เมืองเชียงราย มีรถยนต์ประมาณ 100 คัน รถจักรยานยนต์ประมาณ 80 คัน มวลชนประมาณ 250 คน ตั้งขบวนบริเวณหน้า สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย แล้วเคลื่อนขบวนไปตามถนนเลี่ยงเมืองฝั่งตะวันตกไปยัง สภ.เมืองเชียงราย แล้วไปยังอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ทำให้เจ้าหน้าที่เห็นว่ากิจกรรมมีการกระทำผิดตามข้อกล่าวหา ทั้งนี้ นายสราวุทธิ์และนายภูวิศิษฎ์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน และปล่อยตัวไป
นายภูวศิษฎ์กล่าวว่า การคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่ต้องการให้บ้านเมืองดีขึ้น โดยที่กิจกรรมก็ไม่ได้มีหลักฐานว่าเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เพราะมีการสวมใส่หน้ากากอนามัย และมีแอลกอฮอล์พร้อมสรรพ สำหรับ จ.เชียงราย มีการจัดกิจกรรมคาร์ม็อบแล้วหลายครั้ง ทำให้พวกตนถูกดำเนินคดีไปแล้วหลายครั้ง และมีผู้ต้องหาหลายคน จึงขอให้เจ้าหน้าที่ได้ให้ความยุติธรรม โดยพิจารณาการตั้งข้อหาอย่างละเอียดรอบคอบก่อนด้วย
