ผู้บริหารบ้านประจวบโชคเครียดจัด คดีลูกจ้างสวมสิทธิ 153 ผู้ด้อยโอกาสเร่สแกนเงินสดจากร้านค้าสูญ 6.4 แสน โครงการเราชนะ
กรณีสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ หรือ บ้านประจวบโชค ที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสกลุ่มเปราะบาง ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวน้อย ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง แต่คดีไม่คืบหน้า ภายหลังมีเจ้าหน้าที่นำเลขบัตรประชาชน 13 หลัก รหัสผ่าน 6 หลักของผู้ด้อยโอกาส 153 ราย ไปสแกนแลกเงินสดในร้านค้าหลายพื้นที่ เข้าข่ายทุจริตงบประมาณของรัฐจากโครงการเราชนะ ซึ่งเป็นสิทธิของกลุ่มเปราะบาง 2 งวด รวมรายละ 9,000 บาท
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม นางไพทิพย์ หนูพรม ผู้ปกครองสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้ชี้แจงให้อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พ.ม. รับทราบรายละเอียดและแนวทางการทุจริต พบวงเงินที่มีการทุจริต 644,923 บาท ขณะที่ก่อนหน้านี้มีลูกจ้างชั่วคราวทุจริตงบในลักษณะเดียวกันในร้านค้าหลายแห่ง โดยลูกจ้างนำหลักฐานของผู้ด้อยโอกาสไปสแกนเพื่อแลกเงินสดในร้านค้าของตนเองที่ อ.ปราณบุรี
“ต่อมาเมื่อพบว่ามีการทุจริต ลูกจ้างขอเจรจาขอชดใช้ค่าเสียหาย 21,000 บาท จากนั้นได้ออกจากราชการ สำหรับลูกจ้างชายรายดังกล่าวทำงานที่บ้านประจวบโชคนานกว่า 4 ปี ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงเงินการทุจริตครั้งล่าสุด ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เพื่อติดตามการใช้จ่ายเงินในระบบเพื่อเอาผิดกับผู้สวมสิทธิและร้านค้าทุกราย” นางไพทิพย์ กล่าว
นางไพทิพย์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564 หลังจากพบพิรุธในระบบ โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารกรุงไทย ตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัตรประชาชนและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้ใช้บริการกลุ่มเปราะบาง พบว่ายอดเงินคงเหลือในบัตรประชาชนของผู้ใช้บริการไม่ตรงกับยอดเงินคงเหลือ จำนวน 153 ราย มีรายชื่อร้านค้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อ.ปราณบุรี อ.เมือง อ.กุยบุรี ในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยได้เปลี่ยนแปลงรหัสการเข้าถึงสิทธิโครงการเราชนะ สแกนใบหน้าให้กับผู้ใช้สิทธิ อีกครั้งเพื่อป้องกันการนำรหัสไปสวมสิทธิ
นางไพทิพย์ กล่าวยอมรับว่าส่วนตัวมีความเครียด เนื่องจากการทุจริตดังกล่าวเป็นเรื่องเกินความคาดหมาย ผู้ทุจริตมีข้อมูลลับที่เก็บไว้ในตู้นิรภัย จากการใช้หมายเลข 13 หลักในบัตรประจำตัวประชาชน รหัสผ่านเลข 6 หลัก ของกลุ่มเปราะบางเพื่อนำไปเบิกจ่ายเงินสดจากร้านค้า ส่วนตัวย้ายมาทำงาน 1 ปี 6 เดือน ยืนยันว่าไม่มีข้าราชการร่วมทุจริต และกังวลภาพลักษณ์ขององค์กรจะได้รับผลกระทบ อาจทำให้ขาดความเชื่อมั่นกับผู้บริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสที่บ้านประจวบโชค ขณะที่ปัจจุบันมีเงินเข้าในโครงการสำหรับกลุ่มเปราะบางเพียงรายละ 200 บาทต่อเดือน สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2564