คืบหน้า ‘เฮียฝา’ เศรษฐีหนองตม ที่ออกมาร้องขอความเป็นธรรม หลังพบพิรุธเส้นทางการเงิน หายไปกว่า 50 ล้าน ตรวจสอบพบถูกยักยอกเข้าบัญชีลูกเลี้ยงเฮียฝา หรือภรรยาอดีตผู้จัดการแบงก์ ล่าสุดแบงก์ติดต่อมาว่าภายในวันนี้จะโทรหา ซึ่งยังไม่ทราบจะเป็นเรื่องอะไร
จากกรณีนายประเสริฐ แก้วผกาผ่องศรี หรือเฮียฝา อายุ 77 ปี ชาว ต.วงฆ้อง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เศรษฐีระดับร้อยล้านตลาดหนองตม พร้อมลูกชายเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมพิษณุโลก กรณีเงินในบัญชีธนาคารหายกว่า 50 ล้านบาท ตรวจสอบพบมีการโยกย้ายเงินเข้าบัญชี “ลูกเลี้ยง” หรือภรรยาของลูกเขย ซึ่งลูกเขยเป็นอดีตผู้จัดการแบงก์นั้น
ล่าสุดวันนี้ (13 ตุลาคม) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายสมยศ พงศ์กิตติไพสิฐ อายุ 52 ปี บุตรชายคนโตของเฮียฝาที่บ้านพัก ซึ่งเปิดเป็นร้านซ่อมเกี่ยวกับระบบแอร์ พื้นที่ ต.บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อสอบถามความคืบหน้าจากการนำเสนอข่าว
นายสมยศกล่าวว่า เช้าวันนี้ได้รับการติดต่อจากธนาคารส่วนกลางโทรมาหาว่าวันนี้จะได้รับการติดต่อจากธนาคารอีกครั้ง ให้รอรับโทรศัพท์ ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้นก็ยังไม่ทราบ เพราะสายที่โทรมาแจ้งไม่ได้บอก บอกเพียงวันนี้ธนาคารจะติดต่อหา ซึ่งก็รอโทรศัพท์อยู่ว่าทางธนาคารจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นว่ายังไง รวมถึงจะสอบถามสเตทเมนท์ 6 บัญชี จาก 9 บัญชี ที่ยังไม่ได้รับว่าเป็นอย่างไร เพราะตนและพ่อรอสเตทเมนท์เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินมานานถึง 2 ปีแล้ว
นายสมยศกล่าวว่า เมื่อเช้าทางฝั่งของพี่เขย ซึ่งเป็นอดีตผู้จัดการแบงก์ได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาแล้ว พร้อมยืนยันว่าส่วนที่เขาได้ไปได้ดำเนินการถูกต้องทุกอย่าง ซึ่งผมยืนยันเหมือนกันว่าที่ผมและพ่อออกมาพูดก็ถูกต้องเช่นกัน ก่อนจะวางสายไป
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามนายประเสริฐ หรือเฮียฝา ว่าตอนนี้เห็นลูกชายแจ้งว่าทางธนาคารสำนักงานใหญ่มีการติดต่อมา เมื่อไปดูหลักฐานการโอนเงินผิดปกติ เราดีกับเค้าแต่เค้าไม่ดีกับเรา เอาเปรียบพ่อแม่ นับตั้งแต่แบ่งมรดกกันก็ไม่มีการพูดคุยกัน ตอนแบ่งเงินกันเราก็ไม่ว่า แต่เค้าเอาเปรียบเอามากเกินไป
เฮียฝาบอกอีกว่า ลูกเลี้ยงไม่เคยแวะมาตั้งแต่มีปัญหาเรื่องเงิน ทำเหมือนไม่รู้จักกันเลย ส่วนที่ออกมาเรียกร้องก็คือลูกชายคนโต หรือนายสมยศ เราเป็นคนกลาง เมื่อลูกสงสัยเรื่องเงินที่มีการโอนไปโดยไม่มีสมุดหลายครั้ง และยังไม่มีหลักฐานว่าเงินนี้นำไปเข้าบัญชีใคร เราก็อยากรู้ข้อเท็จจริงด้วย