สสจ.ลำปางแถลง สาว 26 ตาย ไม่เกี่ยวฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรก ด้านแม่ยัน ลูกเป็นแค่โรคกระเพาะ แต่ขอไม่โทษใคร
วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้ไปที่วัดชุมชนบ้านต้า ม.10 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง หลังมีข่าวในสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค ได้ระบุว่า มีหญิงสาว ชื่อ น้องชมพู่ อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นคนในชุมชนได้เสียชีวิตลง เนื่องจากฉีดวัคซีนโควิด – 19 เข็มแรก ซิโนแวค โดยทางญาติได้นำร่างมาตั้งประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดแห่งนี้
สอบถาม แม่ของน้องชมพู่ อายุ 50 ปี เปิดเผยว่า ลูกสาวไปรับการฉีดวัคซีนโควิด – 19 เข็มแรก ซิโนแวค เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นลูกสาว ก็มีอาการเป็นไข้ เหนื่อย หอบ หายใจติดขัด กล้ามเนื้อเริ่มอ่อนแรง จนกระทั่งผ่านไปกว่าสัปดาห์ อาการของลูกเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ จนเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2564 พ่อของลูกสาว ก็พาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลลำปาง แต่เป็นช่วงกลางคืน แพทย์จึงให้กลับบ้านไปก่อน และให้มาตรวจใหม่ในช่วงกลางวัน
“กระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 14 ตุลาคม 2564 ตนเองจึงพาลูกไปโรงพยาบาลลำปาง อีกครั้ง และลูกก็เกิดอาการช๊อค และชักคาโรงพยาบาล ทางแพทย์ต้องนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน เพื่อรักษาด่วนทันที จากนั้นอาการของลูกก็เริ่มทรุดลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เสียชีวิตลงเมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 ตุลาคม 2564 เบื้องต้นแพทย์บอกสาเหตุการเสียชีวิต ว่า ติดเชื้อ ความดันโลหิตต่ำ”
ส่วนตัวเชื่อว่า ลูกน่าจะเกิดอาการไม่พึงประสงค์ หลังฉีดวัคซีนโควิด – 19 เพราะก่อนหน้านี้ลูกไม่เคยมีโรคประจำตัว มีเพียงแค่เป็นโรคกระเพาะ แต่ก่อนหน้าไปฉีดวัคซีน 4 – 5 เดือน ได้รักษาหายแล้ว สำหรับตอนนี้ตนเองก็เสียใจมาก ไม่คิดว่าลูกสาวจะมาอายุสั้น ทั้งนี้ ไม่อยากโทษใครเพราะเข้าใจว่าภูมิต้านทานของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอาจจะแพ้ หรือไม่แพ้วัคซีนก็ได้
ด้าน จังหวัดลำปาง ได้ออกแถลงการณ์ กรณีหญิง อายุ 26 ปี อ.เมือง เสียชีวิต (20 ต.ค.64) โดย นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และ นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เผยรายละเอียดกรณีที่มีข่าวหญิง อายุ 26 ปี รายนี้เสียชีวิต ว่า มีประวัติรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และเคยใช้ยาลดความอ้วน เนื่องจากก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ รู้สึกแขนขาอ่อนแรง มีอาการชา จากนั้นวันที่ 10 ตุลาคม 2564 เริ่มมีอาการถ่ายเหลว คลื่นใส้อาเจียน ปาก และลิ้นเป็นแผล มีผื่นแดงบริเวณใบหน้า
หลังจากนั้นวันที่ 12 ตุลาคม 2564 ช่วงเวลากลางคืน ได้เดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลลำปาง ได้รับการตรวจคัดกรองเบื้องต้น ไม่พบภาวะเจ็บป่วยเร่งด่วน เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้มารับบริการตรวจวันเวลาราชการ ซึ่งผู้ป่วยได้เข้ามารับการรักษาอีกครั้งในวันที่ 14 ตุลาคม 2564 เนื่องจากรู้สึกอ่อนเพลียมากขึ้น จึงมาโรงพยาบาล ผลการตรวจร่างกายแรกรับ พบว่า มีอาการตาบวม กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง ทำตามคำสั่งได้
ทั้งนี้ ขณะรอรักษาในแผนกฉุกเฉินผู้ป่วยมีอาการชักเกร็ง แพทย์ทำการตรวจร่างกาย และสแกนสมองด้วยเครื่องเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ และรับเป็นผู้ป่วยใน ให้การรักษาด้วยยา และให้การวินิจฉัยขณะรับการรักษา ว่า เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (SEL) จนกระทั่ง 17 ตุลาคม 2564 ผู้ป่วยเริ่มรู้สึกมีไข้ ซึม ปลุกไม่ตื่น หายใจเหนื่อย แพทย์จึงทำการรักษาโดยการใส่ท่อช่วยหายใจ ร่วมกับการรักษาด้วยยาปฎิชีวนะ และตรวจเลือด พบว่า มีการติดเชื้อในกระแสเลือด ผู้ป่วยมีอาการทรุดลงเรื่อยๆ จนไม่สามารถวัดความดันโลหิตได้ ญาติปฎิเสธให้ทำการช่วยฟื้นคืนชีพโดยการนวดหัวใจ (CPR)
จนกระทั่งวันที่ 18 ตุลาคม 2564 เวลา 19.20 น. ผู้ป่วยเสียชีวิตด้วยภาวะช็อค จากการติดเชื้อในกระแสเลือด ร่วมกับภาวะไตวายเฉียบพลัน โดยมีปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสโลหิต คือ ผู้ป่วยเป็นโรค แพ้ภูมิตัวเอง เบื้องต้นคาดว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนโควิด – 19
จังหวัดลำปาง ขอแสดงความเสียใจ กับครอบครัวผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้าไปเยี่ยมให้กำลังใจ และแจ้งแนวทางการยื่นคำร้อง ขอรับเงินเยียวยาเบื้องต้นจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งเป็นการเยียวยาเบื้องต้น เพื่อบรรเทาผลกระทบ โดยทางคณะอนุกรรมการจาก สปสช.จะเป็นผู้พิจารณาการได้รับเงินชดเชยดังกล่าว
