คดียาบ้า 1 เม็ดยังไม่จบ โชเฟอร์สิบล้อโอด อดขับรถ ขาดรายได้-เสียค่าใช้จ่ายเยอะสู้คดี

โชเฟอร์สิบล้อจำเลยครอบครองยาบ้า 1 เม็ด ข้องใจ จนท.ศาลหัวหินไม่แจ้งล่วงหน้า หลังศาลอุทธรณ์ขอเลื่อนอ่านคำพิพากษา

กรณีนายโสภณ วงศ์สวัสดิ์ อายุ 48 ปี ชาว จ.ชุมพร โชเฟอร์ขับรถบรรทุกสิบล้อ ทะเบียน 70 – 2434 ชุมพร ตกเป็นผู้ต้องหา หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ แจ้งข้อหาครอบครองยาบ้า 1 เม็ดบริเวณที่วางของ ด้านข้างที่นั่งคนขับ ขณะบรรทุกยางพาราผ่านถนนเพชรเกษมจาก จ.ชุมพร ไปส่งที่ จ.ระยอง แต่นายโสภณได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะ เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ต่อมาศาลจังหวัดหัวหิน มีคำพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563

วันที่ 20 ตุลาคม ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 4 ศาลจังหวัดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายโสภณ วงศ์สวัสดิ์ เดินทางมาจาก จ.ชุมพร พร้อมด้วยนายชำนัญ ศิริลักษณ์ ทนายความเดินทางมาจาก จ.ชลบุรี เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามที่ศาลนัดหมาย ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 แจ้งว่าจะอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีดังกล่าวในเวลา 09.30 น.วันที่ 20 ตุลาคม 2564 แต่ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า เลื่อนการอ่านคำพิพากษาจากวันที่ 20 ตุลาคม 2564 เป็นเวลา 09.30 น.วันที่ 20 มกราคม 2565 เนื่องจากขณะนี้ศาลอุทธรณ์ยังไส่งสำนวนคดีมาถึงศาลจังหวัดหัวหิน

จากการตรวจสอบพบว่าที่ผ่านมาศาลอุทธรณ์มีหนังสือถึงศาลหัวหินตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 แจ้งเหตุผลว่าสำนวนยังไม่เสร็จ จึงขอเลื่อนการฟังคำพิพากษา แต่ศาลหัวหินไม่ได้แจ้งให้คู่ความรับทราบล่วงหน้าแต่อย่างใด

Advertisement

นายโสภณ วงศ์สวัสดิ์ กล่าวว่า ได้เดินทางมาจาก จ.ชุมพร ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม เพื่อรอฟังคำพิพากษา ทุกครั้งที่เดินทางต้องมีค่าใช้จ่ายค่าอาหาร ค่าที่พัก ค่ารถโดยสารกว่า 5,000 บาท หลังจากเป็นตกผู้ต้องหานานเกือบ 2 ปี ทำให้ขาดรายได้ครอบครัวมีผลกระทบพอสมควร ต้องหยุดอาชีพขับรถเนื่องจากไม่สามารถต่อใบอนุญาตใบขับขี่ได้เพราะคดียังไม่จบ แต่โชคดีที่ไม่ตกงาน หลังจากบริษัทเดิมให้โอกาสทำหน้าที่ รปภ. สำหรับคดีนี้ไม่ว่าศาลจะตัดสินอย่างไร จะช้าหรือเร็ว พร้อมน้อมรับการตัดสินตามพยานหลักฐานในกระบวนการยุธรรม สำหรับสาเหตุที่ต้องต่อสู้ให้ถึงที่สุด เนื่องจากต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของตนเองเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ และปกป้องเพื่อนร่วมอาชีพ ไม่ให้มีการกระทำในลักษณะเดียวกัน ยืนยันว่าคดีนี้จะเดินหน้าถึงที่สุดไม่มีการจรจาเพื่อต่อรองผลประโยชน์กับผู้ใดทั้งสิ้น

นายชำนัญ ศิริลักษณ์ ทนายความ กล่าวว่า ตนเดินทางมาจาก จ.ชลบุรีกว่า 400 กิโลเมตร เพื่อรอฟังคำพิพากษา แต่มีการแจ้งเลื่อน ที่ผ่านมาได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ต่อศาล โดยใช้หลักฐานสำคัญจากคลิปเสียงในการสนทนายื่นต่อสู้ในคดี หลังจากพนักงานอัยการได้ยื่นอุทธรณ์ ขณะที่ก่อนหน้านี้ได้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามร้อยยอด ทั้งหมด 7 นาย ตั้งแต่ยศพันตำรวจตรีถึงนายดาบตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ คาดว่าคดีอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.

นายชำนัญ กล่าวอีกว่า คดีนี้ไม่ซับซ้อนเนื่องจากพนักงานอัยการยื่นอุทธรณ์ว่า ยาบ้าอยู่บนรถก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นตรวจค้น ถือว่ามีอยู่ในรถที่จำเลยขับมาแล้ว เมื่อจำเลยไม่มีหลักฐานมาหักล้างสามารถลงโทษได้ แต่การค้นในรถไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ต้องค้นต่อหน้าจำเลย เพราะไม่ใช่ที่รโหฐาน ยาเสพติดที่พบจึงเป็นหลักฐานได้มาโดยชอบ ส่วนลายนิ้วมือ และ ดีเอ็นเอ บนหลอดยาเสพติดของกลาง ที่ไม่พบลายนิ้วมือหรือ ดีเอ็นเอ ของจำเลยเป็นการพบหลายลายมือ และดีเอ็นเอ จำนวนมาก จึงมีของจำเลยปนอยู่ด้วย สำหรับเหตุผลที่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง คดีนี้มีเหตุควรสงสัย ศาลจึงยกข้อสงสัยให้เป็นประโยชน์ของจำเลย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ให้จำเลยร่วมตรวจค้น ทั้งนี้การยื่นอุทธรณ์ จะเป็นโอกาสในการพิสูจน์ความโปร่งใสของกระบวนการยุติธรรมทางอาญาระดับประเทศ เป็นการพิสูจน์สิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ได้รับความเสียหายทางคดีจะทวงคืนความยุติธรรม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image