อดีตพระยันตระ เปิดใจยังไม่ได้สละสมณเพศ เนื่องจากยังไม่เคยกล่าวคำลาสิกขา
อดีตพระยันตระยังอยู่สระแก้ว แถลงเปิดใจอีกครั้งระบุว่า ยังไม่ได้สละสมณเพศ เนื่องจากในอดีตยังไม่ได้กล่าวคำลาสิกขา ขอไม่แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ อยู่ที่สังคมจะพิจารณาเอาเอง ก่อนจะเดินทางไปปทุมธานีและกลับประเทศสหรัฐอเมริกา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักสงฆ์เกพลิตาโพธิวิหาร ต.หนองบอน อ.เมือง จ.สระแก้ว หรือวัดหลวงพ่อหยกขาว ได้มีอดีตพระอาจารย์ยันตระ อมโรภิกขุ หรือนายวินัย ละอองสุวรรณ ซึ่งตกเป็นข่าวโด่งดังเมื่อหลายสิบปีก่อน เดินทางมาที่สำนักสงฆ์ดังกล่าวด้วยรถตู้สีขาว ห่มผ้าจีวรสีเขียวคล้ายพระภิกษุ และมีพุทธศาสนิกชนนุ่งขาวห่มขาว และพระภิกษุ จำนวน 2 รูป มาต้อนรับ โดยลูกศิษย์หลายคนคุกเข่าคลานเข้าไปหา ยกมือไหว้และก้มกราบ ท่ามกลางผู้สื่อข่าวหลายช่องที่ติดตามรอทำข่าวการแถลงข่าวเปิดใจด้วย ภายหลังเปิดแสดงธรรมเทศนาเนื่องในวันออกพรรษาเมื่อวานนี้ ที่ จ.สระแก้ว หลังเดินทางกลับมาประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 70 ปี
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังอดีตพระยันตระเดินมาถึงบริเวณศาลาพุทธศรีอาริยะเมตไตรย ที่จะใช้ในการแถลงข่าว ได้มีพระภิกษุ รวม 5 รูป และบรรดาลูกศิษย์ประมาณ 50 คน ซึ่งนุ่งห่มผ้าสีขาวมารอรับและก้มกราบ 3 ครั้งด้วยความศรัทธา โดยหลังประกอบพิธีกรรมบางอย่าง ที่บริเวณด้านหน้าหลวงพ่อหยกขาว อดีตพระยันตระได้เดินไปที่โต๊ะแถลงข่าวเพื่อทักทายกับบรรดาศิษยานุศิษย์และพระภิกษุด้วย
อดีตพระอาจารย์ยันตระเปิดเผยว่า หลังเกิดกรณีที่มีการวิพากษ์กรณีที่พระภิกษุก้มกราบนั้น ขณะนี้ตนเองยังไม่ได้สละสมณเพศ เนื่องจากในอดีตยังไม่ได้กล่าวคำลาสิกขา ขอไม่แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ อยู่ที่สังคมจะพิจารณาเอาเอง การเป็นครูบาอาจารย์ มีพระอยู่ในใจและการปฏิบัติของอาตมาก็ยังปฏิบัติตลอดมา เพียงแต่ไม่ได้ยุ่งยาก และไม่มีอะไรอยากจะชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกคนมีอิสรภาพและขอให้ลงแต่ความเป็นจริง ซึ่งในการกราบไหว้ของพระสงฆ์นั้นตนก็ไม่ได้แนะนำอะไร เพราะเมื่อเราตั้งใจประพฤติปฏิบัติความจริง ก็สามารถเข้าถึงความเจริญยิ่งในพรหมจรรย์ เป็นที่พึ่งของมหาชนทั้งหลาย
“พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า เธอทั้งหลายที่จาริกไป เที่ยวไป เพื่อประโยชน์และความสุข เมื่อสุขใจตัวเองดีแล้ว อาตมาเข้าถึงความเป็นกลางแล้ว ปล่อยวางแล้ว จึงไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนตั้งอยู่ในศีล เข้าวัดปฏิบัติธรรม ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ เพราะในโลกนี้จะให้ใครเข้าใจเราทั้งหมดก็ไม่ได้ ให้เราดีขนาดไหน คนที่ไม่เข้าใจ จะมองว่าเราไม่ดีอยู่นั่นเอง ก็เลยไม่ทุกข์กับเรื่องนี้ อยู่แบบสบายๆ ไปดีกว่า ส่วนเหตุที่ไม่ปลงผม หรือหนวด เพราะขณะอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาใช้ชีวิตปฏิบัติธรรมอยู่ในป่าเพียงลำพังเท่านั้น” อดีตพระยันตระกล่าว
อย่างไรก็ตาม อดีตพระยันตระยังบอกด้วยว่า สาเหตุที่เดินทางกลับมาประเทศไทยเพราะต้องการกลับมาแผ่นดินเกิด และเยี่ยมเยือนญาติพี่น้องและพระสงฆ์ที่มีความสนิทสนมกัน หลังจากนี้จะเดินทางกลับไปที่ จ.ปทุมธานี และจะเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกาในวันที่ 27 ต.ค.64 ช่วงเวลา 07.00 น. นอกจากนั้น กรณีที่กรรมการมหาเถรสมาคมระบุว่าพระสงฆ์ที่กราบอดีตพระยันตระถือว่าผิดอาบัติทุกกฎนั้น ทางผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สระแก้ว เพื่อให้ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้
