แรงงานทะเลาะกัน แทงดับคาห้องเช่า 1 ราย คนก่อเหตุซิ่ง จยย.หนี ตร.เร่งสืบจับ
วันที่ 24 ตุลาคม เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองแค และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเหตุแทงกันตายภายในห้องเช่า หลังมีชาวบ้านแจ้งว่า มีแรงงานต่างด้าวชาวพม่าแทงกันตาย บริเวณห้องเช่าในพื้นที่ หมู่ 8 ต.ห้วยขมิ้น อ.หนองแค จ.สระบุรี จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบรถจักรยานยนต์ ล้มคว่ำ อยู่ 1 คัน ใกล้ๆ กันพบรองเท้ายาง 1 ข้าง ตกอยู่ที่พื้น ห่างออกไปเล็กน้อยพบ ขวดแตกกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ส่วนภายในห้องเช่า พบศพชายถูกมีดแทงด้วยอาวุธมีด บริเวณใต้ราวนมซ้าย 1 แผล ทราบชื่อ KYAW LWIN อายุ 39 ปี ส่วนคนแทงเป็นแรงงานพม่าเช่นกันและเป็นเพื่อนกัน พักอยู่ห้องติดกัน ทำงานที่เดียวกัน ทราบชื่อ MYO THWIN อายุ 39 ปี หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน 7871 สระบุรี หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบแจ้งศูนย์วิทยุ สภ.หนองแค และพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อสกัดจับผู้ก่อเหตุ แต่ยังไร้วี่แวว
สอบถามเพื่อนชาวพม่าที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะนั้นกำลังนั่งดื่มสุรากันอยู่ ซึ่งสาเหตุเกิดจากภรรยาของผู้ตายซึ่งเป็นชาวพม่า และเป็นญาติกับภรรยาของคนแทง เกิดทะเลาะมีปากเสียงกัน (ฝ่ายหญิงทะเลาะกับฝ่ายหญิง) จากนั้นเกิดการขว้างปาสิ่งของใส่กัน เพื่อนชาวพม่าที่นั่งอยู่ด้วยพยายามห้ามปราม แต่ฝ่ายหญิงทั้งคู่ไม่ยอมเลิก กลับไปพาสามีที่เป็นฝ่ายเสียชีวิตมาเรียกที่ห้อง คู่กรณีจึงเกิดทะเลาะกันขึ้นอีกรอบ คราวนี้ใช้ขวดขว้างปาใส่กัน ส่วนผู้ตายถือขวดแตกลักษณะปากฉลามมาเป็นอาวุธ ทำให้นาย MYO THWIN วิ่งเข้าไปคว้ามีดในห้องมาแทงสู้กันบริเวณหน้าห้อง แต่ผู้ตายสู้ไม่ได้จึงถูกนาย MYO THWIN แทงด้วยมีด เข้าที่เหนือราวนมซ้าย 1 ครั้ง บริเวณลานดินหน้าห้องเช่า จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนเพื่อนในวงเหล้าคือ นาย NAY LIN SOE ได้อุ้มผู้ตายเข้าไปนอนในห้อง โดยไม่รู้ว่านาย KYAW LWIN เสียชีวิตแล้วจากบาดแผลที่ถูกนาย MYO THWIN แทง
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และเก็บวัตถุพยาน ในจุดเกิดเหตุโดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อนำไปเป็นหลักฐาน พร้อมทั้งเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่ นายพลภัทร เกตุกินทะ อายุ 69 ปี เจ้าของห้องเช่า เผยว่า ห้องเช่าดังกล่าวเปิดให้เช่าจำนวน 20 ห้อง ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานพม่ามาเช่าอยู่ แต่ก็จะมีแรงงานไปมาบ้าง แต่ไม่กี่ห้อง เพื่อไปทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ห้องเช่า ซึ่งตนเคยว่ากล่าวเรื่องเสียงดังและกินเหล้ากันหลายครั้ง แต่ก็ดูเหมือนว่าผู้เช่าจะไม่ค่อยเชื่อฟัง เนื่องจากปกติแรงงานพม่าจะพูดจากันเสียงดัง ทำให้ข้างห้องที่เป็นคนไทยเข้าใจว่า ทะเลาะกัน แต่เมื่อตนมาดู และสอบถามแรงงานพม่า จะบอกตนว่าแค่คุยกัน ไม่ได้ทะเลาะกัน ซึ่งตนเคยสั่งห้ามไปหลายครั้งแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล จนมาเกิดเรื่องสลดดังกล่าว
