เก๋งเบรกไม่อยู่ ชนพ่อ-ลูกวัย 3 ขวบกระเด็น ชาวบ้านวอนเร่งแก้ไข มีอุบัติเหตุไม่เว้นวัน

เก๋งเบรกไม่อยู่ ชนพ่อ-ลูกวัย 3 ขวบกระเด็น ชาวบ้านวอนเร่งแก้ไข มีอุบัติเหตุไม่เว้นวัน

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ที่บนถนนทางหลวงหมายเลข 33 ตัดใหม่ อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก – อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ช่วงบริเวณแยกโคกกระโดนตำบลปากพลี อำเภอปากพลี นครนายก เกิดอุบัติเหตุรถเก๋ง ฮอนด้าซิตี้ สีขาว หมายลขทะเบียน4 กบ 8498 กทม เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์สีชมพูคาดขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียนจนกระเด็นตกป่าหญ้าข้างทางห่างจากจุดเกิดเหตุกว่า 10 เมตร มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อนายอำนาจ ฉ่ำศิริ อายุ 43 ปี ชาวตำบลปากพลี อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ได้รับบาดเจ็บนอนหมดสติ มีเลือดไหลตามใบหน้า และบาดแผลตามร่างกาย ไม่ได้สติ ส่วนรายที่ 2 เป็นเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ชื่อน้องข้าวตัง อยู่ในสภาพมีแผลบวมปูดที่ศีรษะ ภาวะซึมคล้ายจะหลับ ต้องคอยปลุกให้มีสติอยู่ตลอดเวลา

ส่วนรถเก๋ง ซิตี้สีขาวสภาพกระจกหน้ามีรอยกระแทกกันชนด้านฝั่งคนขับฉีกขาดได้รับความเสียหาย จอดอยู่ไหล่ทาง นางสาวมะลิวรรณ ประกอบกิจ อายุ 35 ปี เป็นผู้ขับขี่และอยู่ในอาการตกใจในที่เกิดเหตุ ได้บอกว่า ตนขับรถมาจากคลอง 9 อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อไปทำงานที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อถึงบริเวรจุดเกิดเหตุตนเห็นผู้บาดเจ็บขี่รถจักรยานยนต์กำลังจะข้ามถนน ตอนนั้นผู้บาดเจ็บ ชะลอรถเหมือนจะเบรกและมองเหลียวหลังนิดนึง แต่เค้าไม่เบรก เค้าขี่ข้ามถนนมาเลย ทำให้ตนที่กำลังขับขี่ทางตรงต้องเหยียบเบรกอย่างกะทันหันอย่างแรง แต่ก็เบรกไม่ทัน

“ตอนนั้นในระยะก่อนที่จะชนตนเห็นผู้บาดเจ็บขับขี่มาคนเดียว แต่พอประสบเหตุแล้วพบว่ามีเด็กมาด้วย1 คน จากนั้นได้รีบลงมาดูพบว่านายอำนาจได้รับบาดเจ็บนอนอยู่ที่พื้นถนน จังหวะนั้นมีคนผ่านมาจึงเรียกให้มาช่วยดูอาการเด็กที่นอนอยู่ที่พื้นถนนเช่นกัน สำหรับถนนเส้นนี้ใช้ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์”

Advertisement

ขณะที่ก่อนกู้ภัยได้มาถึงได้มีนักปั่นจักรยานผ่านมาที่เกิดเหตุพอดี ได้ช่วยกันอุ้มเด็กขึ้นจากพื้น และโทรแจ้งกู้ภัยให้มาที่เกิดเหตุ พร้อมช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น โบกมือบอกทางรถที่สัญญาณว่ามีอุบัติเหตุข้างหน้าเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน จนกระทั้งกู้ภัยมาถึงได้เร่งนำตัวผู้บาดเจ็บและเด็กส่งโรงพยาบาลปากพลี

นางสาวลักขณา เข็มเพชร อายุ 50 ปี ชาวบ้านที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ บอกว่า ตอนเกิดเหตุตนอยู่ในบ้านจากนั้นได้ยินเสียงแม่ร้องเสียงดังว่ามีรถชนเด็กกระเด็นลอยเลย ตนจึงรีบออกมาดูเมื่อมาถึงพบเด็กอยู่ในอาการตกใจนอนที่พื้น ร้องไห้เสียงดัง หัวโน ตอนนั้นมีนักปั่นจักรยานผ่านมาพอดีได้อุ้มเด็กเอาไว้ ซึ่งตอนนั้นเด็กมีอาการจะหลับจึงได้ช่วยกันปลุกไว้ส่วนตนก็ได้ไปดูนายอำนาจ ซึ่งเป็นคนรู้จักกันอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ตอนนั้นนายอำนาจอยู่ในสภาพนอนแน่นิ่งไม่รู้สึกตัว แต่ตอนที่กู้ภัยมาถึงและกำลังพาขึ้นรถพยาบาลเริ่มรู้สึกตัวและขยับร่างกาย เท่าที่ทราบนายอำนาจได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน

ซึ่งถนนเส้นนี้โดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็นจะมีรถผ่านไปมาเยอะมาก อีกทั้งบริเวรนี้จะมี 2 แยกที่อันตรายมาก และด้านหน้าเป็นจุดกลับรถ ก็จะมีรถชนหรือประสบอุบัติเหตุบ่อยมากช่วงเกาะกลางถนน และหากรถไม่ชินพื้นที่จะไม่รู้เลยว่าทางข้างหน้าจะมีเกาะกลางอีกตรงจุดยูเทิร์น โดยเฉพาะตอนกบางคืนจะมีความอันตรายมากขึ้นเมือ่ไม่นานมานี้ก็พึ่งเกิดอุบัติเหตุชนเกาะกลางคืนเดียว 2 คัน ( เหตุเมื่อวันที่ 17 ต.ค. เครส รถแจ๊ส กับ รถกระบะ ) ซึ่งตั้งแต่ตัดถนนเส้นนี้มา รู้สึกว่าเป็นถนนที่มีความอันตรายต่อชีวิตคนในชุมชนและผู้ใช้เส้นทางอีกทั้งก็จะมีนักเรียนนักศึกใช้เป็นเส้นทางไปโรงเรียนซึ่งก็ใกล้จะเปิดเรียนแล้ว วอนอยากให้หน่วยงานที่ดูแลเข้ามาปรับปรุงแก้ไข

Advertisement

นางกุหลาบ ดำคล้าย อายุ 57 ปี พี่สาวของนายอำนาจ ผู้บาดเจ็บ บอกว่า หลังจากตนทราบได้รีบมาถึงที่เกิดเหตุเห็นหลายน้องข้าวตังอายุ 3 ขวบ ร้องไห้นิดเดียวแทบไม่ร้องและมีอาการเหมือนจะหลับ ก็ต้องคอยเรียกให้มีสติอยู่ตลอด และพบว่าหัวโน หน้าเริ่มเปลี่ยนสี ส่วนนายอำนาจน้องชาย อยู่ในอาการหมดสติ โดยนายอำนาจได้พาลูกสาวออกมาจากบ้านเพื่อนไปส่งที่วัดท้าวอู่ทอง ตำบล โคกไม้ลาย อำเภอเมืองปราจีนบุรี และโดยปกติก็จะใช้เส้นทางนี้ประจำ

โดยวันนี้ก่อนเกิดเหตุนายอำนาจน้องชายต้องไปทำงานที่นิคม 304 ปราจีนบุรี โดยออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 แต่เมื่อขี่รถจักรยานยนต์ไปได้ซักระยะ เกิดโซ่หลุด จึงกลับมาบ้านแล้วเล่าให้ตนฟังว่า ขี่ๆรถไปโซ่หลุดบ่อย จึงตัดสินใจลางานเพราะกลัวจะขี่ไปไม่ถึงที่ทำงาน เลยแวะมาหาลูก ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้ถือเป็นรางบอกเหตุหรือเปล่า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image