ขาดทุนยับ! ชาวนาชัยภูมิช้ำใจ ชี้ราคาข้าวตกต่ำสุดรอบ 30 ปี ขายได้ไม่ถึง กก.ละ 5 บาท เผยบางรายตัดสินใจเก็บไว้เลี้ยงไก่กินเองดีกว่าขายขาดทุนยับแบบนี้
วันที่ 5 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.ชัยภูมิ หลังราคาข้าวตกต่ำหนักในปีนี้ ชาวนาในหลายพื้นที่ สูงนาดอนที่ยังเหลือข้าวที่ปลูกไว้ไม่ถูกน้ำท่วมปีนี้ ซึ่งต้นข้าวเริ่มใกล้เก็บเกี่ยวได้ เจ้าของนาแต่ละคนต่างพากันเร่งหาคนมารับจ้างรถเกี่ยวข้าวมาช่วยเกี่ยวข้าวในแปลงนาในราคาต่อไร่ละ 700 บาท แทนซึ่งทำให้เวลาเก็บเกี่ยวได้เร็วขึ้น
เพื่อเร่งเกี่ยวข้าวไปตากให้แห้งลดความชื้นเพื่อก่อนจะนำไปขายจะได้ราคาสูงขึ้น หรือนำไปขายสดได้ทัน ซึ่งหากจ้างแรงงานคนจะใช้เวลานาน และค่าแรงสูงขึ้น แต่ในปีนี้ชาวบ้านตามพื้นที่ต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ มีพื้นที่ปลูกข้าวทุกชนิดกว่า 1 ล้าน 7 แสนไร่ มีพื้นที่ปลูกข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายกว่า 1 ล้าน 2 แสนไร่ มีพื้นที่ปลูกข้าวที่ยังคงเหลืออยู่ประมาณ 5 แสนไร่ ต้องมาประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำข้าวเปลือกเจ้าแห้ง หรือทั่วไปเกี่ยวสดราคากิโลกรัมละ 5 บาท แถมต้องถูกหักความชื้นอีกด้วย ส่วนข้าวหอมมะลิเกี่ยวสดมีราคากิโลกรัมละ 8 บาท แต่ต้องถูกหักความชื้นอีกด้วย
นายอรัญ ศุพรโพคี อายุ 53 ปี เกษตรกรชาวนาบ้านพลัง หมู่ 10 ต.นาฝาย อ.เมืองชัยภูมิ บอกว่าตนเองทำนาปลูกข้าวมากกว่า 30 ปี ไม่เคยเห็นราคาข้าวตกต่ำเช่นนี้มาก่อนตลอดที่ทำนามานานกว่า 30 ปี ตนเองปลูกข้าวเหนียว 5 ไร่ไว้กิน และปลูกข้าวหอมมะลิอีก 10 ไร่ เอาไว้กินและเหลือไว้ขาย ปีนี้ค่าลงทุนปลูกข้าวสูงทั้งต้นฤดูค่าน้ำมันเชื้อเพลิงใส่เครื่องสูบน้ำเข้านา ค่าปุ๋ยคอก ปุ๋ยเคมี และค่าแรงงานต่าง ๆ กว่าจะได้ข้าวรอดตายมา ยังดีที่ปีนี้ในพื้นที่นาดอนที่ต้องลงทุนมากเพื่อปลูกในที่สูงไม่ถูกน้ำท่วมต้นข้าวเสียหาย มีเพื่อนชาวนาบ้านเดียวกันเกี่ยวข้าวได้ข้าวเปลือกไปขายมาตั้งแต่ช่วงวานนี้ (4 พ.ย.64) ได้กิโลกรัมละ 4 บาท 50 สตางค์ แถมถูกหักความชื้น 15% ด้วย ซึ่งตนเองมองว่าหากขายราคานี้ชาวนาอยู่ไม่ได้แน่นอนเพราะขาดทุนมากจนไม่เหลืออะไรเลย
นายอรัญ ระบุว่า ในส่วนตัวมองว่าหากราคาข้าวเปลือกต่ำกว่ากิโลกรัมละ 10 บาท จะเก็บข้าวเปลือกไว้ให้ไก่กิน ใช้เลี้ยงไก่ขายจะดีกว่าขายข้าวเปลือกไม่ได้ราคา ซึ่งบางรายที่มีความจำเป็นต้องใช้หนี้ก็จำใจต้องเร่งนำไปขาย ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้อีกแล้วปีนี้ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลเร่งลงมาช่วยเหลือราคาข้าวตกต่ำหนักสุดแล้วในปีนี้เป็นการด่วนด้วย ซึ่งราคาที่จะพอช่วยให้ชาวนาอยู่ได้ในขณะนี้ราคาขายควรจะไม่น้อยกว่า 10-12 บาทต่อกิโลกรัมขึ้นไป และหากปล่อยไปเช่นกันนี้ชาวนาก็เหมือนหมดตัวไม่มีเงินมาใช้หนี้ ธ.ก.ส. เงินที่ลงทุนไปทั้งหมดต่อปีกว่า 200,000 บาท แต่กลับขายข้าวได้ไม่ถึงแสนบาท ต้องมาหมดตัวขาดทุนหนักขนาดนี้ตามาอีกเป็นจำนวนมากในปีนี้ด้วย
