ตม.ภูเก็ต รวบหนุ่มเมียนมา สวมบัตรปชช. ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในหาดป่าตอง

ตม.ภูเก็ตนำหมายจับเข้ารวบตัวหนุ่มเมียนมาสวมบัตร ปชช.คนไทยทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในหาดป่าตอง

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตม.จว.ภูเก็ตพร้อมด้วย จนท.บก.สส.สตม.และ จนท.ตม.จว.ภูเก็ตร่วมกันสอบปากคำนายโอมจี โคดมกุล อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 7 ตุลาคม และวันที่ 8 ตุลาคม ในข้อหาเป็นผู้ยื่นคำขอมีบัตรประชาชนโดยมิได้มีสัญชาติไทยด้วยการแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และเป็นคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ทำหรือใช้หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จหรือกระทำการเพื่อให้ตนเอง หรือผู้อื่นมีชื่อหรือมีรายการอย่างหนึ่งอย่างใดในทะเบียนบ้าน หรือเอกสารทะเบียนราษฎรอื่นโดยมิชอบ

แจ้งข้อความอันเป็นเท็จหรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการที่มีบัตรประจำตัวประชาชน แจ้งความอันเป็นเท็จแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับให้เป็นพยานหลักฐานโดยที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำผิดตามมาตรา 267 ในประการที่น่าจะให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

หลังจาก ตม.จว.ภูเก็ตได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคนต่างด้าวมีพฤติกรรมทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงได้ดำเนินการตรวจสอบสืบสวนข้อเท็จจริง จนพบข้อมูลต้องสงสัยน่าเชื่อว่านายโอมจี โคดมกุล อายุ 49 ปี เดิมเป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา ได้รับสัญชาติไทย ซึ่งอาจเป็นผู้ได้มาซึ่งสัญชาติไทยโดยไม่ถูกต้อง จากนั้นจึงได้ตรวจสอบไปยังกรมการปกครองและได้รับการสนับสนุนข้อมูลจากกรมการปกครองกลับมาว่า บุคคลดังกล่าว มีภาพใบหน้าลักษณะคล้ายชาวอินเดีย ไม่น่าจะเป็นพี่น้องกับบุคคลในทะเบียนประวัติราษฎร อีกทั้งทะเบียนประวัติมีลักษณะเป็นการจัดทำขึ้นใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งไม่ปรากฏหลักฐานดังกล่าวในฐานข้อมูลของทะเบียนราษฎร

Advertisement

ประกอบกับการการทำบัตรประจำตัวคน ซึ่งไม่มีสัญชาติไทยครั้งแรกนั้น ได้ดำเนินการหลังระยะเวลาที่ได้จัดทำทะเบียนประวัติเป็นเวลานาน ตม.จว.ภูเก็ต จึงได้ประสานข้อมูลให้ บก.สส.สตม.ช่วยสืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม รวมถึงสอบสวนปากคำพยานซึ่งเป็นบุคคลในครอบครัวที่นายโอมจีเข้าไปสวมสิทธิ์ เจ้าหน้าที่สืบสวนได้สืบสวน สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนน่าเชื่อว่านายโอมจี มีพฤติกรรมสวมสิทธิของบุคคลอื่น เพื่อขอมีสัญชาติไทย ขอมีบัตรประชาชนและเพิ่มข้อมูลในทะเบียนราษฎรโดยทุจริต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำรายงานสืบสวนเสนอผู้บังคับบัญชา และแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง

และ สภ.ถลาง เพื่อดำเนินคดีและออกหมายจับผู้ต้องหาในเวลาต่อมา จนกระทั่งวันที่ 9 พฤศจิกายน ตม.จว.ภูเก็ต ร่วมกับ บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งร่วมบูรณาการจับกุมได้สืบทราบว่านายโอมจีพักอาศัยในต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ตรวจสอบพบนายโอมจี ผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงจับกุมผู้ต้องหานำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

ทั้งนี้ พ ล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image