หดหู่ ป้าวัย 59 ปี ป่วยติดเตียงนอนในเล้าไก่นานกว่า 4 ปี แพมเพิร์สนับพันชิ้นกองเน่าเหม็นคลุ้ง วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่จากเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมจังหวัดนครราชสีมา และทหารจากหน่วยบัญชาการป้องกันทางอากาศ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2 ได้ลงพื้นที่บ้านไม่มีเลขที่ ซึ่งตั้งอยู่กลางไร่มันสำปะหลัง บ้านอ่างหินเหนือ หมู่ 4 ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เพื่อช่วยเหลือครอบครัวนางแสงทิพย์ เพื่อนเกาะ อายุ 59 ปี ผู้ป่วยติดเตียง พักอาศัยอยู่ในเล้าไก่ของพี่ชายสามี ไม่ได้ออกไปไหนมานานกว่า 4 ปี
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบเป็นเล้าไก่ที่ตั้งอยู่หลังบ้านไม่มีเลขที่ กั้นเป็นสัดส่วน โดยหน้าห้องที่นางแสงทิพย์อาศัยอยู่มีแพมเพิร์สผู้ใหญ่กองพะเนิน ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ขณะที่ในห้องนอนพบนางแสงทิพย์ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กำลังนั่งรับประทานอาหารที่สามีซื้อมาไว้ให้ ในห้องมีฟูกเก่าๆ ปูเป็นที่นอน มีขยะวางทิ้งเกลื่อน
ตามร่างกายนางแสงทิพย์มีร่องรอยยุงกัดเต็มตัว เท้าขยับไม่ได้ มือขยับได้บางส่วน ตามองเห็นเลือนราง พูดจาไม่ชัด แต่หูพอได้ยินบ้าง เส้นผมเกาะตัวแข็งเป็นก้อน เนื่องจากไม่ได้อาบน้ำสระผมเป็นเวลานานกว่า 4 ปีแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันพยุงร่างขึ้นรถเข็นนำออกมาข้างนอกเล้าไก่ และมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารช่วยกันเก็บแพมเพิร์สใส่ถุงดำได้กว่า 20 ถุง ลำเลียงขึ้นรถบรรทุกทหารเต็มคันรถ เพื่อนำไปทิ้งในที่เหมาะสม และทำความสะอาดห้องนอน รวมทั้งบริเวณโดยรอบเล้าไก่
สอบถามนางแสงทิพย์ ผู้ป่วยติดเตียงเล่าว่า อาศัยอยู่ในเล้าไก่แห่งนี้กับสามีคือนายปรีชา เพื่อนเกาะ มานานกว่า 4 ปีแล้ว ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือ เพราะที่นี่ไม่มีบ้านเลขที่ จึงอาศัยเพียงเงินช่วยเหลื้อเบี้ยผู้พิการตนเองเดือนละ 800 บาท และเบี้ยผู้สูงอายุของสามี 600 บาท ใช้ซื้ออาหารประทังชีวิตไปวันๆ เท่านั้น โดยที่ตนเองไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่ และไม่ได้อาบน้ำมานานตลอด 4 ปี ใช้เพียงผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเป็นบางครั้งเท่านั้น จึงไม่เคยออกมานอกบ้านเลย
นายสุชาติ เพื่อนเกาะ อายุ 66 ปี พี่ชายของนายปรีชา กล่าวว่า ก่อนที่แม่จะเสียชีวิต ได้ฝากให้ตนพานายปรีชา น้องชายมาอาศัยอยู่ด้วย เพราะสงสารที่ไม่มีที่อยู่ จึงได้พาน้องชายมาอยู่ด้วย โดยให้อาศัยอยู่ในโรงเรือนที่เคยทำเป็นเล้าไก่มาก่อน ตั้งอยู่ในไร่มันสำปะหลัง ซึ่งน้องชายก็อยู่กับภรรยาเรื่อยมา ตนเองก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับชีวิตส่วนตัว แต่ทราบดีว่าน้องชายลำบากมาก เพราะภรรยาก็เป็นผู้ป่วยติดเตียงด้วย ถึงอย่างไรก็ตามตนเองก็ไม่ได้มีเงินทองมากที่จะช่วยเหลือได้ นอกจากจะช่วยเรื่องที่อยู่เท่านั้น
ด้านนายปรีชา เพื่อนเกาะ อายุ 63 ปี สามีของนางแสงทิพย์ เล่าว่า ในอดีตตนเองมีอาชีพพนักงานขับรถยนต์ระดับ ส.2 สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 5 นครราชสีมา เงินเดือนก่อนเกษียณอายุ 28,530 บาท ซึ่งช่วงทำงานเมื่อปี 2541 ภรรยาก็ประสบอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกัน จนต้องไปผ่าตัดสมองกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง จึงนำเงินไปเป็นค่ารักษาพยาบาลส่วนใหญ่ เมื่อตนเกษียณอายุงานแล้วก็มีเงินก้อนหนึ่งเก็บไว้ และมีบ้านหลังหนึ่ง ต่อมาก็มีญาติพี่น้องมาหยิบยืมเงินไปครั้งละ 2-3 หมื่นบาทเรื่อยมา ตนเองก็ช่วยเหลือโดยที่ทวงเงินคืนไม่ได้ และที่ต้องหมดตัวเมื่อพี่สาวเอาโฉนดที่ดินไปค้ำประกันให้เพื่อน ตนเองจึงต้องขายบ้านไปในราคา 350,000 บาท เพื่อนำเงินไปใช้หนี้แทน
นายปรีชากล่าวว่า ซ้ำร้ายเมื่อปี 2561 ลูกชายก็ต้องมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ทำให้เหลือแค่ตนเองที่เป็นเสาหลักของครองครัว หารับจ้างทั่วไปเพื่อหาเงินมาเลี้ยงภรรยาที่ป่วยติดเตียง และไม่มีที่อยู่อาศัย ต้องมาขออาศัยอยู่ในเล้าไก่ของพี่ชาย ด้วยความที่ต้องทำงานรับจ้างแบกปูน แบกหิน ก่อสร้างทั่วไป ทำให้ไม่มีเวลาดูแลทำความสะอาดที่อยู่อาศัย แพมเพิร์สที่ใส่ให้ภรรยาก็ต้องนำมากองไว้หน้าห้อง จนกลายเป็นกองใหญ่ ตนเองมีเพียงรถจักรยานยนต์ก็ไม่มีปัญญานำไปทิ้งที่ไกลๆ ได้
“ในแต่ละวันก็ต้องวิ่งทำงาน และหาซื้อกับข้าวให้ภรรยากินไปวันๆ ที่อยู่ในบัตรประชาชนก็ยังคงเป็นที่อยู่บ้านของพนักงานขับรถของสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 5 นครราชสีมา เพราะไม่มีบ้านที่จะให้ย้ายเข้าได้ ตอนนี้ดีใจที่มีหน่วยงานมาช่วยเหลือนำแพมเพิร์สไปทิ้งให้ และทำความสะอาดบ้านให้ ขอขอบคุณหน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้ ผมคงจะอาศัยอยู่ที่นี่กับภรรยาต่อไป” นายปรีชากล่าว
นางสาวสมนึก ประกอบผล ผจก.บริษัทสไมล์คอนเทรนเนอร์ จำกัด หัวหน้างานของนายปรีชา กล่าวว่า ตอนแรกที่นายปรีชาไปสมัครงานเป็นพนักงานขับรถ ตนเองก็ได้สัมภาษณ์งาน สอบถามความเป็นมา เนื่องจากเห็นว่านายปรีชามีอายุมากแล้ว โดยนายปรีชาก็บอกว่าต้องการหางานทำเพราะไม่มีเงินซื้อข้าวกิน เนื่องจากภรรยาประสบอุบัติเหตุผ่าตัดสมองเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่นานกว่า 8 ปีแล้ว โดยที่ไม่มีหน่วยงานใดมาให้การช่วยเหลือ และขอเบิกเงินล่วงหน้าก่อน เพื่อนำเงินไปซื้อข้าวให้ภรรยากิน
นางสาวสมนึกกล่าวว่า เมื่อได้ยินดังนั้นจึงพากันมาดูสภาพความเป็นอยู่ พบว่าทั้งคู่อาศัยอยู่ในเล้าไก่ ข้างหน้าห้องมีแพมเพิร์สกองนับพันชิ้น เพราะสะสมมานานกว่า 4 ปี เมื่อเปิดประตูห้องไปก็พบว่านางแสงทิพย์นอนไม่สวมเสื้อผ้าอยู่บนฟูกเก่าๆ มีเพียงแพมเพิร์สสวมใส่เท่านั้น สภาพความเป็นอยู่น่าหดหู่มาก จึงให้ลูกน้องหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ให้ เพื่อไม่ให้อุจาดตาแก่ผู้พบเห็น หลังจากนั้นจึงได้แจ้งไปยังหน่วยงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานพัฒนาสังคมจังหวัดนครราชสีมา และหน่วยทหาร เพื่อขอความช่วยเหลือในครั้งนี้
สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องการให้ความช่วยเหลือครอบครัวของนางแสงทิพย์ สามารถช่วยเหลือได้โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขานครราชสีมา เลขที่บัญชี 301-1-65795-5 ชื่อบัญชี นางแสงทิพย์ เพื่อนเกาะ หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่เบอร์โทร 09-2223-3924 (น.ส.สมนึก)
