สลดอีก ช้างป่าทำร้ายชาวบ้านดับรายที่ 4 ในรอบเดือน เตือนปชช.ระวัง เหตุเป็นฤดูผสมพันธุ์
วันที่ 12 พ.ย. 64 เวลา 01.20 น. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุกู้ภัย สมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน จันทบุรี ได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ว่ามีชาวบ้าน ถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต โดยเหตุเกิดในพื้นที่บ้านตาเรือง ซอยสุขสันต์ ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี
หลังรับแจ้งได้ประสาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกตัญญูชุดสอยดาว พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานเขาสอยดาว ร่วมเดินทางออกตรวจสอบโดยที่เกิดเหตุจุดที่พบผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าขึ้นเขาเข้าไปในป่าลึก ระยะทางกว่า 1.5 กม. ซึ่งตลอดระยะทาง ต้องคอยระวังช้างป่า ตัวที่ก่อเหตุ เนื่องจากเป็นป่ารกทึบและยังไม่รู้ว่า ช้างป่า ยังอยู่ในพื้นที่หรือไม่
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบร่างผู้เสียชีวิต เพศชาย 1 ราย ทราบชื่อ นายประยูร เพชรฤชัย อายุ 76 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ สวมเสื้อเชิ้ตสีดำทับเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีดำ สวมรองเท้าบูทสีน้ำเงิน มีบาดแผลบอบช้ำตามร่างกายหลายแห่ง นอกจากนี้ยังพบรอยเท้าช้างป่า เดินย่ำบริเวณรอบที่เกิดเหตุ
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ ได้ทำการเคลื่อนย้ายศพ โดยการห่อผ้ามัดหามด้วยไม้เดินลงจากเขา นำส่ง รพ.สอยดาว เพื่อให้แพทย์ตรวจชันสูตรยืนสาเหตุการเสียชีวิต
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายประยูรผู้เสียชีวิต กับลูกชาย ออกหาของป่าในพื้นที่ และแยกกันระหว่างทาง ขณะที่ นายประยูรได้บังเอิญเดินไปเจอกับ ช้างป่าที่หากินในบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีจำนวน 4 ตัว และมีช้างแม่ลูกอ่อน จึงคาดว่าถูกช้างฝูงนี้ทำร้ายจนเสียชีวิต จนลูกชายเดินวนกลับมาพบศพและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือดังกล่าว
ขณะเดียวกัน จากการรายงานของ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.จันทบุรี รายงานข้อมูลปัญหาช้างป่าในพื้นที่ พบว่าภายในเดือน พ.ย.64 เดือนเดียว มีผู้ถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิตแล้ว 4 ราย รวมผู้สื่อข่าวช่อง 7 ส่วนสถิติ ตั้งแต่ต้นปี 2564 จนถึงวันที่ 12 พ.ย.นี้ มีผู้ถูกช้างป่า ทำร้ายจนเสียชีวิตแล้ว 7 คน บาดเจ็บ 1 คน บ้านพัง 1 หลัง ยังไม่รวมพืชผลการเกษตรที่เสียหาย จากสถิติตัวเลขผู้เสียชีวิต ถูกช้างป่าทำร้ายเพิ่มสูงขึ้น ทางจังหวัดจันทบุรี ได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน ในพื้นที่เสี่ยง ให้เพิ่มความระมัดระวังสูงสุด เมื่อพบเห็นช้างป่า อย่าเข้าใกล้ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูผสมพันธ์ ช้างจะมีความเสี่ยง ตกมันสูง และให้รีบแจ้งสายด่วน 1362 เพื่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการช่วยเหลือ ผลักดันช้างป่าได้อย่างทันท่วงที