เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุม 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อม นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตที่ 1 นำทีมผู้บริหารจังหวัดเชียงใหม่ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ และแนวทางการแก้ไขสถานการณ์
นายประจญ กล่าวว่า การแพร่ระบาดที่เริ่มต้นจากคลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ทวีความรุนแรงและพบผู้ติดเชื้อกระจายเป็นวงกว้างในหลายอำเภอ จังหวัดเชียงใหม่จึงดำเนินการระดมปิดล้อมและสั่งการทุกอำเภอจัดตั้งศูนย์แยกกักชุมชน หรือ Community Isolation (CI) เพื่อดูแลผู้ติดเชื้อในแต่ละอำเภอ พร้อมตรวจค้นหาเชิงรุกด้วยชุดตรวจ ATK ในแต่ละชุมชน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในช่วงนี้พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้หายป่วยมีจำนวนที่ใกล้เคียงกัน และพบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแรงงานต้างด้าวที่อยู่ในเขตเมือง จึงจัดทีมเคลื่อนเร็วลงพื้นที่ค้นหาเชิงรุกในทุกพื้นที่ เพื่อคัดแยกผู้ติดเชื้อออกจากชุมชนและให้ได้รับวัคซีนครบทุกคน ขณะที่รัฐบาลได้จัดสรรวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาให้จังหวัดเชียงใหม่ ครบ 100% ตามจำนวนประชากรในพื้นที่ โดยตั้งเป้าล้อมกรอบเพื่อควบคุมโรคให้ได้ภายใน 1 ธันวาคม 2564
“ขอเน้นย้ำถึงประชาชนทุกคนว่า จะต้องตระหนักรู้ และคำนึงว่าเชื้อโรคอยู่ใกล้เรา พร้อมปฏิบัติตนด้วยการ อยู่ห่างไว้ ใส่แมสกัน หมั่นล้างมือ และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด เพื่อเดินหน้าแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนควบคู่กับมาตรการป้องกันโรค”
ด้าน นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ล่าสุดมีการเตรียมเตียงสนามไอซียูเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยหนัก ดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรการใหม่ๆ ที่จะนำมาควบคุมโรคให้เร็วที่สุด จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบการจัดการของเชียงใหม่ ที่ผ่านมาเรามีการประชุมเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์และแก้ไขปัญหาเป็นประจำทุกวัน ซึ่งพบว่าจุดที่ต้องรีบแก้ปัญหาโดยเร่งด่วนคือ บริเวณตลาดเมืองใหม่และบริเวณที่มีแรงงงานต่างด้าวอาศัยอยู่พื้นที่ 3 โซน 15 ชุมชน ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งได้กำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือ RED ZONE เพื่อค้นหาแรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้อ และนำเข้าสู่ระบบการรักษาเร็วที่สุด กรณีที่ไม่มีอาการจะรักษาด้วยระบบ Home Isolation (HI) และ Community Isolation (CI) ส่วนผู้ที่มาตรวจแล้วไม่พบเชื้อจะได้รับการฉีดวัคซีนทันที
และพยายามตัดวงจรของโรคที่เป็นสะเก็ดไฟกระจายไปในอำเภอต่างๆ โดยได้สั่งการให้ทุกอำเภอเร่งตรวจหาเชื้อ และจัดตั้งสถานที่พักคอย รักษา ภายหลังจากพบว่าปัญหาการแพร่ระบาดในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนใหญ่มาจากเขตเมืองและกระจายไปเป็นคลัสเตอร์ในอำเภอต่างๆ ทั้ง อำเภอสันทราย อำเภอสารภี อำเภอดอยสะเก็ด และอำเภอสันกำแพง จึงเน้นย้ำให้นายอำเภอปฏิบัติการอย่างเร่งด่วน เพื่อตัดวงจรการระบาดให้ได้โดยเร็ว
ส่วนรายงานสถานการณ์ประจำวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 399 ราย เสียชีวิต 5 ราย ทำให้ยอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 96 ราย