ลำปางกระจายผู้ป่วยคลัสเตอร์ขับรถส่งปูนไปรักษาอำเภออื่น ป้องกันภาวะเตียงเต็ม หลังลามหนัก

ลำปางกระจายผู้ป่วยคลัสเตอร์ขับรถส่งปูน ไปรักษาอำเภออื่นๆ ป้องกันภาวะ รพ.เตียงเต็ม หลังลามหนัก เจอคนในหมู่บ้านและเด็กนักเรียน ติดเชื้อเพียบ 35 ราย

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ อ.งาว จ.ลำปาง ยังคงต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากในพื้นที่ ยังพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกว่า 300 คน ที่ต้องแยกกักตัวตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หลังจากในพื้นที่พบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนวงคลัสเตอร์คนขับรถบรรทุกขนส่งปูนของเอกชน ที่ไปมาหลายจังหวัด และขับข้ามไปส่งในประเทศลาว แล้วกลับมาบ้านที่ อ.งาว จ.ลำปาง
จนทำให้เกิดการแพร่เชื้อลามเข้าสู่คนในครอบครัว ติดเชื้อไปทั้งบ้าน 6 คน และลามแพร่เชื้อต่อสู่คนในหมู่บ้านเดียวกัน หมู่บ้านใกล้เคียงกระจายใน ต.บ้านโป่ง อ.งาว และเชื้อลามเข้าในโรงเรียน จนทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมขณะนี้ 35 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ มีนักเรียนป่วยติดเชื้อไปกว่า 15 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ต้องแยกกักตัวอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้โรงเรียนในพื้นที่ คือ โรงเรียนบ้านสบพึง ต.บ้านโป่ง อ.งาว ต้องประกาศปิดเรียนอย่างไม่มีกำหนดเปิด

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภองาว ได้ปรับให้โรงเรียนแห่งนี้เป็นศูนย์พักคอย CI หรือ Community Isolation เพื่อให้ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการรุนแรง ได้เข้าพักรักษาตัว จำนวน 20 เตียง สำหรับผู้ป่วยรายอื่นๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งไปรักษาในโรงพยาบาลงาว โรงพยาบาลอำเภอใกล้เคียง และโรงพยาบาลสนามใน อบจ.ลำปาง เพื่อกระจายการรักษา ไม่ให้เตียงในโรงพยาบาลงาวเกิดเต็ม และล้นมือในการดูแลรักษา

สำหรับคลัสเตอร์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา โดยพบผู้ติดเชื้อรายแรกในวงคลัสเตอร์นี้ เป็นชายไทย อายุ 48 ปี พนักงานขับรถขนส่งปูนของบริษัทเอกชน มีประวัติเดินทางขับรถบรรทุกปูนไปรับ-ส่งหลายพื้นที่ ได้แก่ โรงปูนใน อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง จากนั้นขับไปส่ง จ.เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และพิษณุโลก และยังขับรถข้ามไปยังประเทศลาว พอกลับมาเริ่มมีอาการ มีไข้ ไอมีเสมหะ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ จมูกได้กลิ่นลดลง แต่ยังไม่ได้ไปตรวจ แต่ก็ได้ออกเดินทางขับรถไปส่งปูนที่ประเทศลาว อีกครั้ง และได้รับการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับมายัง จ.ลำปาง

กระทั่งบริษัทที่ประเทศลาว ได้โทรศัพท์มาแจ้งผลว่าติดเชื้อ จึงได้เดินทางไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลงาว จึงยืนยันว่าติดเชื้อจริง และเข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาล ซึ่งจากกรณีที่เกิดขึ้น เมื่อผู้ติดเชื้อรายแรก ที่มีอาการแล้ว ไม่ได้เว้นระยะห่างกันกับคนในครอบครัว และผู้สัมผัสใกล้ชิด เกิดการ์ดตก จึงทำให้เกิดการแพร่เชื้อ และลามไปสู่ผู้อื่นถึง 35 ราย จนทำให้มีผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงสูง และเสี่ยงต่ำที่ต้องเฝ้าระวังในพื้นที่ 10 หมู่บ้าน กระจายใน 2 ตำบล ของ อ.งาว กว่า 740 ราย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image