แม่ค้าขายยำเมืองปทุมฯ ร้องสื่อช่วยถูกแก๊งเงินกู้บุก ทำลายทรัพย์สินในบ้าน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางปรัญญา มุ่งหมาย อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/137 หมู่ 1 หมู่บ้านชุมชนสวนเกษตร ซอย 17 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ถูกชายฉกรรจ์พวกแก๊งเงินกู้นอกระบบ บุกเข้ามาที่บ้านทุบประตูบ้าน ทุบพังกระจกบานเกร็ดจนแตกละเอียดได้รับความเสียหาย
จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบนางปรัญญา มุ่งหมาย เจ้าของบ้าน บอกว่าตนเองเป็นแม่ค้าขายยำมะม่วง ได้ไปกู้เงินนอกระบบเป็นดอกลอย ยอดกู้เงิน จำนวน 4,000 บาท ต้องส่งดอกทุกวันๆ ละ 120 บาท โดยกู้เงินมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 และส่งดอกได้ 2 เดือน ก็หยุดส่งเนื่องจากหยุดขายของ แต่ได้คืนเงินต้นเขาไปแล้ว จำนวน 1,500 บาท เหลือยอดเงินกู้อีก 2,500 บาท แต่ไม่ได้ส่งดอกเขา จนมีมาทวงหนี้อยู่เรื่อยๆ
มาเจอลูกชายอยู่บ้านกับลูกสะใภ้เขาก็กลับไปจนมาเมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.64) พวกเงินกู้มาที่บ้าน และมาเรียกชื่อน้อยๆ 2 ครั้งไม่มีใครตอบรับเขา พวกเขาก็เข้าไปทำลายข้าวของที่บ้าน ตีประตู ทุบหน้าต่างกระจก ขณะที่พวกเขาทุบพังประตู ในบ้านมีลูกสะใภ้ และหลาน เด็กนอนอยู่ จนเด็กตกใจร้อง เพราะพวกเงินกู้ใช้ท่อนเหล็กตีประตู ตีกระจกดังโครมคราม จนกระจกกระเด็นเข้าไปในบ้าน ที่ต้องไปกู้เงิน ตนเองมีอาชีพค้าขายยำมะม่วงอยู่หน้าหมู่บ้านมาใช้ลงทุน พวกเขาจะมาเก็บดอกตอนเย็น แต่ช่วงหลังจะให้โอนให้ทุกวัน ดอกรายวันถ้าเราไม่ตัดต้นส่งดอก ต้นก็ไม่ยุบ ต้องส่งดอกเขาทุกวัน ส่งไปเรื่อย ๆ ต้นก็อยู่อย่างงั้น ส่งทุกวัน 120 บาท ส่งดอกอย่างเดียว ไม่รวมต้น
คือถ้าตัดต้นเมื่อไรดอกก็ยุบ ช่วงหลังไม่ได้ส่งดอกมา 4 เดือน เนื่องจากออกไปขายของไม่ได้ เพราะมีโควิดระบาด ถึงไปขายก็ขายไม่ได้ ไม่มีคนซื้อ มันก็เลยส่งผลกระทบ ที่เราไปกู้เงินเข้ามาและไม่มีเงินส่งรายวันตอนที่ไปกู้เขามายอดเงิน จำนวน 4,000 บาท ถูกเขาหักค่าก็ทำสัญญาในวันนั้นทั้งหักดอกเลยวันแรก 120 บาท และหักค่าเขียนเอกสารยอดเงินกู้ 4,000 บาทก็จะเหลืออยู่ที่ 3,440 บาทได้เงินมาประมาณนี้ ดอกมันเกินตัว ซึ่งเราก็รู้ แต่ทำยังไงได้เราคนจนไม่มีเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว ก็เลยต้องกู้เขา หลังเกิดเหตุโดนทุบบ้านพัง ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ธัญบุรี โดยให้ลูกสะใภ้ ไปแจ้ง ตำรวจก็ไม่ได้ทำอะไรให้เลย พอรู้ว่าเป็นเรื่องเงินกู้ เพียงขอเบอร์ไว้เท่านั้น มีความรู้สึกว่าเรามันเดือดร้อน
ซึ่งเราเงินกู้มาแต่ทำกับเราถึงขนาดนี้ เงินกู้ก็ไม่ได้เยอะเหลือแค่ 2,500 บาท แต่มาทำกับเราถึงขนาดนี้ มันก็เกินไป ตนเองก็เลยโทรไปหาตำรวจที่มีเบอร์ในใบแจ้ง ถามว่าตำรวจไม่ดูแลเลย ทางตำรวจบอกว่าแล้วจะให้ตำรวจทำยังไง ในเมื่อคุณก็เป็นหนี้เขา เป็นหนี้ก็ต้องใช้เขา ตนเองก็บอกว่าเข้าใจเป็นหนี้ก็ต้องใช้เขา ซึ่งตนเองใช้เขาอยู่แล้ว ถ้ากลับมาค้าขายของได้ ก็จะผ่อนให้เขา แต่มาทำอย่างงี้เสียก่อนมาพังบ้านกะว่าปีใหม่จะเริ่มขายของจะติดต่อไปผ่อนให้เขา และเงินมันก็เหลือไม่เยอะแล้ว ตำรวจบอกแล้วจะให้ตำรวจช่วยยังไง ตนเองก็บอกว่าเรารู้ว่าพวกเงินกู้มาพังบ้านไม่มีเจ้าอื่น มีเขาเจ้าเดียว
ซึ่งตนเองไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร เงินที่ไปก็มาพวกแก๊งนอกระบบมาร่อนแจกนามบัตรของเฮียเดชซึ่งเคยกู้มาหนหนึ่งแล้ว หมื่นบาทส่งเขาหมดแล้วเมื่อก่อนคิดดอกกู้ 5,000 บาทส่งรายวันๆละร้อยบาท หมื่นหนึ่งส่งวันๆละ 200 บาทส่งดอกอย่างเดียว โดยจะมีลูกน้องขี่มอไซค์มาเก็บดอกที่ทุกวัน แม่ค้าขายยำมะม่วง กล่าวอีกว่า อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยหน่อย ก็ยอมรับว่า เป็นหนี้เขาจริง กู้เขามาจริง ถ้าคนเรามีก็คงไม่ไปกู้หรอกให้เสียดอก เรายินดีที่ใช้เขาพูดคุยกันได้ ตนเองก็ผิดที่ไม่ได้ติดต่อไป แต่มาทำแบบนี้ก็เกินไป ตำรวจเองก็ไม่ช่วย ไม่มาดูแลเลย ไปแจ้งความแล้วก็ไม่มีสายตรวจมาดูแล คือปล่อยเลย เกรงจะได้รับอันตราย เพราะดูแล้วพวกเขามีอิทธิพลบอกว่า ตำรวจที่ไหนก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ไม่มีใครทำอะไรเขาได้หรอก
ด้านนายวัน(นามสมมุติ) เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เห็นรถกระบะสีดำยี่ห้อ ฟอร์ด ขับมาจอดหน้าบ้านแล้วมีชายฉกรรจ์ลงมา 3 คนแล้วเดินไปเรียกหน้าประตูบ้าน แต่ไม่มีการตอบรับพวกกลุ่มชายฉกรรจ์น่าจะโมโหสักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนมีปาวัตถุเข้าไปที่กระจกเสียงดังแรงมากก็เลยเดินออกมาดู ชายฉกรรจ์น่าจะใช้ท่อนเหล็กทุบขว้างเข้าในบ้านก่อนรีบขึ้นรถขับออกไปทั้ง 3 คนเหตุเกิดช่วงบ่าย 2 โมงของวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา
