ลุงวัย 61 ใช้มีดฟาดน้องเมีย อีกฝ่ายคว้าอีโต้สวนป้องกันตัว หวิดดับคาสวนมัน
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปราจีนบุรีรับแจ้งว่าที่บ้านวังไอ้ป๋อง ม.3 ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เกิดเหตุคนถูกทำมีอีโต้ฟันที่ศีรษะ ได้รับบาดเจ็บนำตัวส่งโรงพยาบาลนาดี ทราบชื่อนายสาคร จันทร์ดีดา อายุ 61 ปี ถูกมีดอีโต้ฟันที่ศีรษะแพทย์ทำการเย็บแผลให้หลายเข็มและถูกฟันที่นิ้วมือชี้นิ้วกลาง นิ้วนางนิ้วก้อยรวม 4 นิ้ว
ลุงสาครเล่าว่า ตนและภรรยากับญาติๆ 6 คนมารับจ้างขุดหัวมันสำปะหลังและตัดต้นมันสำปะหลัง ตนรับหน้าที่เป็นคนขุดหัวมันสำปะหลัง ลุงสาครพูดทีเล่นทีจริงกับ บังอร บุญปลูก ซึ่งเป็นน้องเมียว่ารีบตัดเร็วๆ ขุดมาทันแล้วนะรีบๆหน่อย ขณะที่บังอร บอกว่าก็ต่างคนต่างทำกันไปสิ ไปถอนที่อื่นก่อนก็ได้ ก็ตัดอยู่ จากนั้นผู้บาดเจ็บพูดเสียงดังใส่บังอรอีกครั้ง
เสี้ยววินาทีนั้น นายสาครได้ใช้ที่ขุดมันที่มีด้ามเป็นไม้ไผ่ขนาดเท่าแขนยาว 1.20 ซม.ฟาดที่ศีรษะของที่บังอรอย่างแรง 1 ครั้งและได้ต่อยที่เบ้าตาของบังอร 1 ครั้งจนได้รับบาดเจ็บ บังอรใช้มีดอีโต้ฟันไปเพื่อป้องกันตัว 1 ครั้ง สาครใช้มือด้านซ้ายยกขึ้นป้องกันและถูกฟันที่ศีรษะอย่างแรง 1 ครั้งท่ามกลางความตกตะลึงของญาติๆ เมื่อตั้งสติได้จึงพากันมาช่วยกันดึงมีดที่ปักอยู่ที่ศีรษะสาครออกรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนบังอรก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเช่นกัน สาครบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่เอาเรื่องแต่จะเอาคืน
ด้านไสว อินทร์นงค์ พี่สาวของบังอร กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องหน้าหวาดเสียวแบบนี้ ทุกคนกำลังนั่งกินข้าวอยู่ในสวน สามีเป็นคนเสียงดังเอะอะโวยวาย ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ หลังจากเกิดเรื่องให้สองคนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เสียใจที่เกิดเรื่องแบบนี้
ด้านบังอร บุญปลูก ผู้ได้รับบาดเจ็บบอกว่า ก่อนเกิดเหตุตนมารับจ้างตัดต้นมันเพื่อหาเรื่องครอบครัว นายสาครพูดจาเสียงดังตามปกติ และเข้ามาใกล้ บอกให้ตนรีบทำงานและค่อยไปทำที่อื่นตนบอกว่า “อาจะทำก็ทำไป ต่างคนต่างทำ จะมายุ่งอะไรกับหนู” ตนไม่ได้สนใจอะไร เพราะใช้มีดอีโต้ฟันต้นมัน ขณะนั้นผู้ได้รับบาดเจ็บเข้ามาประชิดตัว และใช้ด้ามไม้ที่ใช้สำหรับขุดมันสำปะหลังตีที่ศีรษะอย่างแรง และถูกชกต่อยที่เบ้าตาด้านซ้าย ขณะที่ตนถือมีดอยู่จึงเหวี่ยงมีดไปเพื่อป้องกันตัวเองและส่งเสียงร้องให้คนช่วย เมื่อลืมตาขึ้นเห็นมีดสับที่ศีรษะผู้บาดเจ็บ จนรู้สึกเสียใจแล้วพูดอะไรไม่ออก เจ็บก็เจ็บ จากนี้ไปไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปนั้นเกินกว่าเหตุหรือไม่ หากผู้ได้รับบาดเจ็บไปแจ้งความเอาเรื่องก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
