เหยื่อทอมเช่าฟอร์จูนเนอร์โผล่อีกร้องทนายโป้ง มั่นใจทำเป็นขบวนการ

เหยื่อทอมเช่าฟอร์จูนเนอร์โผล่อีกร้องทนายโป้ง มั่นใจทำเป็นขบวนการ

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.64 ที่สำนักงานทนายความจิตอาสา ในศูนย์การค้าบางใหญ่ซิตี้ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เหยื่อสาวทอมรายล่าสุดที่ถูกเช่ารถยนต์แล้วเชิดส่งขายประเทศเมียนมาคือ น.ส.กนกณัฐ หรือกวาง อุไรรัตน์อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/111 หมู่ 1 ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือจากนายเกียรติคุณ ต้นยางหรือทนายโป้งประธานชมรมทนายความจิตอาสา หลังถูกทอมแสบรายเดียวกันกับที่ไปหลอกเช่ารถจาก นางสาวเกศสุดา และ มาหลอกเช่ารถ Fortuner สีขาว ทะเบียน 8กฆ -3006 กรุงเทพฯ ราคา 1 ล้าน 4 แสนกว่าบาท ซึ่งตนเองออกรถมาป้ายแดงและนำมาให้เช่า จนกระทั่งมาถูกสาวทอมรายนี้ใช้อุบายหลอกเช่ารถเหมือนกับที่ไปหลอกเหยื่อรายแรก ก่อนสัญญาณ GPS จะขาดหายไปด้านชายแดนจังหวัดตาก และไปสิ้นสุดยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน

นางสาวกนกรัตน์ หรือคุณกวาง เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ทอมแสบรายนี้ได้มาติดต่อเจ้ารถจากตนเองเมื่อวันที่ 19 ตุลาคมถึง 21 ตุลาคม 64 เป็นเวลา 3 วัน โดยจ่ายค่าเช่าวันละ 1,950 บาท และมัดจำเงินจำนวน 3,000 บาท โดยมีหลักฐาน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่รถยนต์ ให้ไว้กับตนเองเป็นหลักฐาน ตนเองเห็นว่าทอมแสบรายนี้ปฏิบัติตามขั้นตอนถูกต้องจึงได้ให้รถเช่าไปในวันนั้น จนกระทั่งถึงกำหนดวันต้องส่งรถคืน ตนเองได้ติดต่อทอมแสบรายนี้ไปซึ่งเจ้าตัวเองบอกว่าขอต่อสัญญาเช่าไปอีก 2 วัน เนื่องจากยังอยู่ระหว่างเที่ยวอยู่ และได้โอนเงินมาให้ตนเองเป็นที่เรียบร้อย จนกระทั่งบ่ายวันที่ 23 ตุลาคม 64 ตนพบว่าสัญญาณ GPS รถ Toyota Fortuner ของตนเองขาดหายไปบริเวณชายแดน ด้านอำเภอแม่สอดฝั่งไทย โดยพบสัญญาณไปโผล่ครั้งสุดท้ายยังฝั่งประเทศเมียนมาร์ และมาทราบข่าวจากทางสื่อมวลชนว่าทอมแสบรายนี้ได้ไปหลอกเช่ารถจากเหยื่อสาวอีกรายแต่เขาโชคดี ได้รถคืนแม้จะต้องสูญเสียเงินในการไถ่รถของตัวเองกลับมาก็ตาม

นางสาวกนกรัตน์กล่าวว่า รถคันนี้ตนซื้อมาและผ่อนไฟแนนนซ์ จำนวน 60 งวดละๆ 23,060 บาท โดยผ่อนส่งไปแล้วทั้งสิ้น 24 งวด ยังคงเหลือค่างวดอีก 36 งวด เมื่อรถมาถูกส่งขายไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทำให้ตนเองกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะจะต้องมานั่งผ่อนรถให้กับไฟแนนซ์ทุกๆเดือน รวมทั้งรถก็ถูกนำไปขายฝั่งประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ตนอยากฝากถึง ผบตร. ผบ.ทบ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน โดยเฉพาะ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นทหารโดยตรงขอให้ท่านช่วยเหลือ สั่งการให้ทหารของท่านติดตามหรือประสานนำรถกลับมาคืนให้ตนเองด้วย เพราะตนเองเดือดร้อนจริงๆ พร้อมทั้งฝากถึงทอมแสบรายนี้ว่าอย่าได้ไปก่อเหตุหรือทำแบบนี้กับใครอีกเลยเพราะเขาเดือดร้อนมากจริงๆ

ด้านทนายโป้ง กล่าวว่า จากการสอบถามข้อเท็จจริงตรงกันกับรถของเคสที่แล้ว เพียงแต่รถของน้องกวางเป็นรุ่นใหม่กว่า ระยะเวลาเช่า 3 วันเริ่มต้น และต่ออีก 2 วันเหมือนกัน ช่วงเวลา 2 วันนี่แหละที่นำรถข้ามประเทศเพื่อนบ้าน อยากฝากถึงสาวทอมว่าคันนี้เป็นคันที่ 2 แล้วที่มีผู้ติดต่อเข้ามาและรวบรวมจากการคุยทางโทรศัพท์มีผู้เสียหายประมาณ 5 คันแล้ว อยากให้เข้ามาเคลียร์กับผู้เสียหายจะได้ไม่เป็นคดีความ ฝากถึงสน.ทุ่งสองห้อง ด้วย เคสนี้ไปแจ้งความแล้วและพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกแล้วครบกำหนดแล้ว อยากฝากถึงผู้กำกับให้ดำเนินการออกหมายจับคดีข้อหาฉ้อโกง คดีนี้คงไม่ใช่คดีฉ้อโกงธรรมดาแล้วเพราะพฤติการณ์และพฤติกรรมคล้ายกับของรถอีกคัน และมีการทำความผิดข้ามประเทศ เป็นมูลฐานของ ปปง.ที่ต้องมาดำเนินการจัดการฝากผู้หลักผู้ใหญ่เคสนี้ไม่ใช่คดีฉ้อโกงธรรมดาแต่เป็นกระบวนการแล้ อยากให้รีบจับมาแล้วขยายผลก่อนที่จะมีผู้เสียหายมากกว่านี้ซึ่งตอนนี้มีมา 2 ราย

Advertisement

และยังมีอีกหลายรายที่อยู่ภาคเหนือ ฝากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรีบดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งไม่น่าเนิ่นนานไปกว่านี้ ตอนนี้หมายจับควรออกได้แล้ว ส่วนอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท แต่คดีฉ้อโกงนี้ไม่น่าใช่คดีหลักแล้ว น่าจะเป็นเรื่องกระบวนการลักลอบนำรถไปจำหน่ายประเทศเพื่อนบ้าน ฝากถึงศูนย์บัญชาการติดตามรถหาย ผู้บัญชาการกรมสอบสวนกลางให้ลงมาช่วยดูแลเพราะตอนนี้มีรถหายหลายคันแล้วไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพราะตอนนี้ผู้เสียหายก็ได้เข้ามาแจ้งความกันแล้ว คดีนี้คาดว่าทำเป็นขบวนการ อันดับแรกต้องตามจับสาวทอมนี้ก่อน พนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไปว่าเป็นกระบวนการหรือเปล่า คงไม่ใช่ข้อหาฉ้อโกงธรรมดาแล้วเป็นกระบวนการค้ารถข้ามชาติ เป็นการกระทำความผิดกฎหมายหลายกรรมหลายบทต่างกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image