ชาวบ้านในอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เฝ้ารอคำตอบจากรัฐบาลเช่นเดียวกับตัวแทนที่เดินทางไปร่วมทวงสัญญา SEA ใน กทม. ยืนยันความสมบูรณ์ของทะเลจะนะสามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้เกี่ยวเนื่อง จนส่งเสียลูกหลานเรียนหนังสือโดยไม่เดือดร้อน ‘บรรจง นะแส’ เสนอทางออกรัฐบาลทำตามข้อตกลง
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านใน อ.จะนะ จ.สงขลา ที่ยังปักหลักอยู่ในพื้นที่รอคอยคำตอบจากเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นที่เดินทางไปร่วมชุมนุมทวงสัญญา SEA ในโครงการจะนะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต โดยวันนี้มีกำหนดที่จะเคลื่อนตัวไปฟังคำตอบที่หน้าทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง
โดยชาวบ้านที่ยังคงอยู่ในพื้นที่เป็นกลุ่มที่มีภาระต้องดูแลบุตรหลานและผู้สูงวัย ใช้วิธีการโทรศัพท์ไปสอบถามความเคลื่อนไหวจากเพื่อนบ้านที่อยู่แนวหน้าใน กทม. ส่วนการติดตามการจัดเวทีรับฟังความเห็นครั้งที่ 1 ที่ทางบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดขึ้น ซึ่งเป็นการประชุมออนไลน์ทั้งหมดหมดนั้น ชาวบ้านที่นี่ไม่สามารถเข้าถึงได้
นางเจ๊ะหวอ หลำยะสิทธิ์ ชาวบ้านหมู่ 5 ต.สะกอม กล่าวว่า ทะเลจะนะมีความสมบูรณ์ ทำให้มีอาชีพที่เกี่ยวเนื่องได้หลากหลาย ตั้งแต่การออกเรือ เมื่อได้ผลผลิตก็ส่งขายบ้าง แปรรูปบ้าง ขั้นตอนการแปรรูปก็มีการจ้างงานกันเองภายในชุมชน ทำให้ไม่เดือดร้อน แต่หากเกิดนิคมอุตสาหกรรมขึ้นมา ทะเลจะนะก็จะเปลี่ยนไป เช่นเดียวกับวิถีชีวิตในชุมชน
นางมาหวา หลงโดย ตัวแทนชาวบ้านใน ต.สะกอม กล่าวว่า ขอให้กำลังใจพี่น้องที่เดินทางไปร่วมทวงสัญญาใน กทม. ขอให้ได้รับชัยชนะกลับมา การทวงสัญญาในวันนี้เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่รัฐบาลไม่ได้ทำตามข้อตกลงที่มีการพูดคุยกันไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้ต้องการเคลื่อนไหวอีกครั้ง
ด้านนายบรรจง นะแส ที่ปรึกษาสมาคมรักษ์ทะเลไทย กล่าวว่า หากนายกรัฐมนตรีมีความจริงใจ ไม่ได้มีผลประโยชน์ร่วมกับกลุ่มทุนและนักการเมืองที่มีผลประโยชน์ ขอเสนอทางออกกรณีการทวงสัญญา SEA ของเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ดังนี้ ขอให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีที่มีมติสอดไส้ให้เกิดนิคมอุตสาหกรรมจะนะเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2562 และที่ต่อเนื่องจากมติดังกล่าวอีก 2 ครั้ง และทุ่มเทงบประมาณในการทำตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2559 ให้เห็นเป็นรูปธรรม เพราะในมติ ครม.ในครั้งนั้นกำหนดไว้ว่าจะพัฒนาพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อสนับสนุนกิจกรรมธุรกิจด้านการท่องเที่ยว จะพัฒนาพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ให้เป็นเขตนิคมอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก
นายบรรจงกล่าวว่า นอกจากนี้ ยังจะพัฒนาพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ให้เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม โดยทั้ง 3 พื้นที่ตามมติ ครม.เรื่องยังไม่ไปถึงไหน แต่กลับมีคนสอดไส้ให้มีนิคมอุตสาหกรรมจะนะแบบไม่มีที่มาที่ไป มีแต่การผลักดันโครงการเพื่อตอบสนองความต้องการ หรือผลประโยชน์ของคนบางคน นายกรัฐมนตรีจึงต้องหยุดโดยออกมติ ครม.ยกเลิกทันที
“หากอยากจะพัฒนาพื้นที่ของ จ.สงขลา หรือในเขต อ.จะนะ ก็แต่งตั้งให้มีคณะกรรมการทำการศึกษาผลกระทบด้านยุทธศาสตร์พื้นที่ (Strategies environmental assessment-SEA) จากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาตามกรอบของการทำ SEA แล้วเอาผลของการศึกษามาดู มาเปรียบเทียบว่าถ้าจะทำโครงการมีผลดี ผลเสียอะไรมากกว่ากัน และรีบเอาข้อเสนอที่ผมเสนอมาเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้เห็นชอบในวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 14 ธันวาคมนี้ เชื่อว่าเรื่องก็จะจบลงด้วยดีแน่นอน” นายบรรจงกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ตร.ตรึงกำลังรอรับ ‘ม็อบจะนะ’ ปิดถนนมาประตู 1 ทำเนียบรัฐบาลแล้ว
- ‘สุพัฒนพงษ์’ จ่อคุยแกนนำจะนะ เล็งลงพื้นที่ทำการบ้านหาข้อสรุป
