วันที่ 4 ตุลาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม พบมีชาวประมงพื้นบ้านล่าปลาบึกจาก 3 จังหวัดริมฝั่งแม่น้ำโขง ประกอบด้วย จังหวัดบึงกาฬ มุกดาหาร และจังหวัดนครพนม นำมาส่งขายให้แม่ค้าในตลาด จำนวน 3 ตัว รวมน้ำหนัก 260 กิโลกรัม โดยขนาดปลาบึกตัวใหญ่ที่สุดหนักถึง 110 กิโลกรัม สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่มาจับจ่ายสินค้าในตลาดเป็นอย่างมาก เพราะเป็นปลาที่หายาก ซึ่งในรอบ 3 เดือน จะพบเห็นได้แค่ 1-2 ตัวเท่านั้น โดยหลังแม่ค้าในตลาดรับซื้อไว้ไม่ถึง 2 ชั่วโมง ปรากฏว่ามีร้านอาหารและภัตตาคารชื่อดังหลายแห่งแย่งกันจองหน้าเขียงเพื่อนำไปประกอบเมนูเด็ดของร้าน
นางเด่น คันทักษ์ แม่ค้าขายปลาในตลาดเทศบาลเมืองนครพนมมานานกว่า 30 ปี กล่าวว่า ช่วงปลายฝนต้นหนาว และใกล้เทศกาลออกพรรษาจะมีชาวประมงในพื้นที่ออกหาปลาในแม่น้ำโขง ได้ปลามาจำหน่ายให้ตนหลากหลายชนิด ทั้งตัวที่มีขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมามีเฉพาะชาวประมงในจังหวัดนครพนมนำมาขายให้เท่านั้น แต่ครั้งนี้มีชาวประมงจากจังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดบึงกาฬ นำปลาบึกขนาดใหญ่มาขายให้ด้วย เพราะพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ไม่กล้ารับซื้อด้วยต้องใช้ทุนสูง ประกอบไปด้วยปลาบึกขนาด 110 กิโลกรัม 1 ตัว จากจังหวัดบึงกาฬ ขนาด 90 กิโลกรัม จากจังหวัดมุกดาหาร และหวัดนครพนม ขนาด 60 กิโลกรัม 1 ตัว ซึ่งตนเองรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 250 บาท รวมเป็นเงิน 65,000 บาท โดยหลังรับซื้อจะชำแหละและส่งขายตามออเดอร์ของภัตตาคาร ร้านอาหารและโรงแรม ที่มีการสั่งจองไว้ล่วงหน้า ในราคากิโลกรัมละ 300 บาท
โดยหลังข่าวแพร่สะพัดออกไป ปรากฏว่าภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ปลาบึกทั้ง 3 ตัว มีออเดอร์สั่งจองหมดแล้ว เพราะเป็นปลาที่หายาก เป็นที่นิยมของผู้บริโภค ดังนั้นร้านอาหารจึงนิยมนำไปผัดเผ็ด ผัดฉ่า ต้มยำจำหน่าย ซึ่งรสชาติเนื้อปลาบึกจะอร่อยมากที่สุดในบรรดาปลาตระกูลหนัง โดยเฉพาะตามปลาธรรมชาติที่ล่าได้จากแม่น้ำโขง จะมีมันใต้หน้าท้อง ซึ่งเป็นโอเมก้าสูง ทานแล้วจะมีสุขภาพดี
