นายเดวิดสันกล่าวว่า ทางสถานทูตมีนโยบายเน้นย้ำให้นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เดินทางมาไทยได้ปฏิบัติตัวตามกฎหมายได้อย่างถูกต้องและไม่มีปัญหาใดๆ และอยู่ในขอบเขต อย่างมีความรู้ตามกรอบ 3 อย่างที่เราแนะนำนักท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบของสถานทูต ประการแรกคือ การป้องกัน ได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวอังกฤษรู้ และเข้าใจถึงสถานการณ์ในต่างประเทศทั่วไปไม่ว่าในต่างประเทศใดๆ และไทย ประการที่สอง เวลาที่มีชาวอังกฤษที่อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือ หรือกระทำผิด ต้องอาศัยความร่วมมือและความช่วยเหลือจากตำรวจ ซึ่งเรารู้ว่าตำรวจไทยมีการประสานงานที่ดีต่อทางสถานทูตอังกฤษที่อยู่ในประเทศไทย
“ประการที่สาม ทางอังกฤษยินดีที่จะช่วยเหลือจากประสบการณ์ที่เรามี และพร้อมประสานความร่วมมือกับตำรวจไทย อย่างคดีข่มขืนที่เกิดกับชาวอังกฤษ ซึ่งอาจเกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่เชียงใหม่ หากเทียบกับจังหวัดอื่น อยากแจ้งให้ทราบว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมีผลกระทบอย่างมากแม้เกิดขึ้นหลายสิบปีแล้วแต่ทางญาติของเหยื่อก็ยังสอบถามติดตามความคืบหน้ามากับทางรัฐอยู่ คดีข่มขืนอยากขอให้มีการเก็บหลักฐานให้รวดเร็ว รวมทั้งการปฏิบัติตัวต่อเหยื่อที่ถูกกระทำ ต้องขอขอบคุณทางตำรวจไทยที่ได้เข้าร่วมการสัมมนากับผู้เชี่ยวชาญของเราในประเด็นการดูแลเหยื่อถูกข่มขืน เพราะแนวทางการปฏิบัติของแต่ละวัฒนธรรมต่อเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นต่างกัน และหวังว่าจะมีโอกาสร่วมมือในการสัมมนาประเด็นอื่นๆ ในภายหน้าด้วย” นายเดวิดสันกล่าว
ขณะที่ นายเดวิดสันอย่างกล่าวถึงอีกเรื่องคือความปลอดภัยทางท้องถนน ชาวอังกฤษและชาวต่างชาติอาจไม่มีความสังเกตที่ดีพอหรือมาปฏิบัติในสิ่งที่ไม่ปฏิบัติที่บ้านตัวเอง เราเน้นย้ำและเห็นด้วยที่ไทยจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ทั้งการเมาแล้วขับ การสวมใส่หมวกกันน็อก เราได้ประชาสัมพันธ์หลายอย่างที่จะประชาสัมพันธ์ให้ท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย รวมถึงให้เคารพในวัฒนธรรมไทยอย่างเต็มที่ในช่วงสงกรานต์ ซึ่งทางสถานทูตได้จัดทำข้อมูลใบปลิวแนะนำการปฏิบัติตัวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแล้ว อีกทั้ง ยังมีประเด็นทางเศรษฐกิจด้วย คือ ทางเราอยากเพิ่มจำนวนชาวอังกฤษที่มาไทย ซึ่งที่ผ่านมาเข้ามาเที่ยวประเทศไทยมากกว่าปีละ 1 ล้านคน แต่อยากลดปัญหาทึ่เกิดขึ้น ด้วยการแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ทั้งสองฝ่าย เช่นกันกับกรณีของนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปลอนดอนก็มีมาก ความแตกต่างด้วนวัฒนธรรมก็ตัองมีการเรียนรู้ร่วมกัน
ด้าน พล.ต.ต.พูลทรัพย์กล่าวว่า เรื่องนักท่องเที่ยวเป็นนโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงเน้นอยู่แล้ว เราจะดูแลทุกชาติโดยเฉพาะประเทศอังกฤษ ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับตำรวจเชียงใหม่ ส่วนเรื่องที่ผ่านมา เช่น คดีข่มขืน ก็ขอให้ประเทศต้นสังกัดให้ความรู้ว่า ประเพณีของคนเอเชียกับชาวยุโรปอาจแตกต่างกัน บางทีเรื่องการแต่งตัว หรือเรื่องการแตะเนื้อต้องตัวจับไม้จับมือ ทางยุโรปไม่ถือ แต่คนเอเชียหรือคนไทยอาจคิดว่าอีกฝ่ายนั้นชอบหรือคิดว่าเป็นการให้ท่า และอาจนำไปสู่ปัญหาทางเพศได้ ก็ขอให้แนะนำเรื่องความรู้สึกนึกคิดที่ต่างกันนี้ด้วย ส่วนคดีที่เกี่ยวกับทรัพย์สิน ก็อยากให้แนะนำให้นักท่องเที่ยวเลี่ยงการเดินป่าที่ไปกันเอง ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้าย
“ในสายตาคนไทยแล้ว ชาวอังกฤษเป็นนักท่องเที่ยวที่น่ารัก ขอให้ท่านทูตฯช่วยประชาสัมพันธ์ให้คนมาเที่ยวเมืองไทยกันมากๆ เราพร้อมจะดูแล ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวอังกฤษไม่มีปัญหา เป็นคนรักธรรมชาติ แต่บางทีอาจชอบไปท่องเที่ยวแบบเป็นส่วนตัวอยู่บ้าง ก็ขอให้แจ้งทางเจ้าหน้าที่ก่อนจะได้ช่วยแนะนำกันได้ ตำรวจพร้อมจะดูแลขอให้ประสานเข้ามาคิดเสียว่าเหมือนพี่เหมือนน้องไม่ต้องเกรงใจ” พล.ต.ต.พูลทรัพย์กล่าว