สมุทรสงครามไข่แตก สสจ.ยันพบผู้ติดเชื้อ ‘โอมิครอน’ 2 ราย ทั้งคู่รักษาตัวที่ รพ.แล้ว ขออย่าตื่นตระหนก

สมุทรสงครามไข่แตก พบผู้ติดเชื้อโควิด -19 สายพันธุ์โอมิครอนจำนวน 2 ราย

เมื่อวันที่ 6 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใน จ.สมุทรสงคราม มีกระแสข่าวลือถึงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน สร้างความตื่นตกใจอย่างมาก ต่อมามีการแชร์หนังสือราชการด่วนที่สุด ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนามโดยนายขจร ศรีชวโนทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ใจความว่า “ด้วยจังหวัดสมุทรสงครามได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สายพันธุ์โอมิครอน ในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม ในวันที่ 6 มกราคม 2565 ซึ่งได้รับการยืนยันผลตรวจจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 5 สมุทรสงครามแล้ว จำนวน 2 ราย เป็นบุคคลสัญชาติไทย เพศชาย จำนวน 1 ราย เพศหญิง จำนวน 2 ราย โดยผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) สายพันธุ์โอมิครอน มีภูมิลำเนา จ.สมุทรสงคราม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค” นั้น

นพ.สันทิต บุณยะส่ง นพ.สสจ.สมุทรสงคราม เปิดเผยว่ากรณีดังกล่าวขอให้ชาวสมุทรสงครามอย่าตื่นตระหนกตกใจ เนื่องจากผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายไทย อายุ 36 ปี อยู่หมู่ 3 ต.ยายแพง อ.บางคนที ทำงานอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี ไปเที่ยวปีใหม่กับเพื่อนที่กาญจนบุรี และทราบข่าวว่าเพื่อนที่ไปด้วยกันมีอาการ จึงขับรถกลับมาตรวจที่ รพ.นภาลัย เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 โดยกลับไปรอฟังผลที่บ้านเลขที่ดังกล่าวซึ่งอาศัยอยู่คนเดียว และทราบผลวันที่ 5 มกราคม 2565 ว่ามีผลตรวจเป็นบวก จึงโทรไปแจ้ง รพ.มหาชัยแม่กลอง ให้มารับตัวเพื่อไปรักษา เนื่องจากใช้สิทธิประกันสังคมที่ทำไว้กับ รพ.ดังกล่าว

นพ.สันทิตกล่าวว่า ส่วนรายที่ 2 เป็นนักศึกษาหญิงไทย อายุ 24 ปี อยู่บ้าน หมู่ 2 ต.ดอนมะโนรา อ.บางคนที ไปเที่ยวปีใหม่กับเพื่อน 6 คนที่ จ.ชลบุรี เพื่อนในกลุ่มมีอาการเป็นไข้ จึงต้องการตรวจหาเชื้อ โดยเพื่อนในกลุ่มได้ขับรถพามาตรวจที่ รพ.นภาลัย เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 ไม่ได้แวะเข้าบ้านแต่อย่างใด และเมื่อผลตรวจปรากฏว่าเป็นบวก รพ.นภาลัย จึงรับตัวไว้รักษาเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565

“ยืนยันว่าทั้ง 2 ราย ไม่ได้สัมผัสคนในสมุทรสงคราม ขณะนี้ได้รับตัวไว้นอนใน รพ.แล้ว จึงไม่น่าเป็นห่วง และไม่ต้องตื่นตระหนกแต่อย่างใด แค่ใช้ชีวิตแบบ New Normal ไม่ประมาท อย่าการ์ดตก อย่างไรก็ตาม แม้สายพันธุ์นี้จะไม่รุนแรงและไม่ลงปอดในผู้ที่รับวัคซีนแล้ว และร่างกายแข็งแรง แต่ก็จะลงปอดเฉพาะในผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่ไม่ได้วัคซีน หรือได้ไม่ครบ 3 เข็ม จึงขอให้กลุ่มเสี่ยงดังกล่าวมารับการฉีดได้ที่โรงพยาบาลในภูมิลำเนา โดยสอบถามได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านได้” นพ.สสจ.สมุทรสงครามระบุ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image