เจ้าท่า ตรวจสอบน้ำทะเลเปลี่ยนสี หลังรับแจ้งสงสัยคราบน้ำมันเรือผี

เจ้าท่า ตรวจสอบน้ำทะเลเปลี่ยนสี หลังรับแจ้งสงสัยคราบน้ำมันเรือผี

เจ้าท่าภูมิภาคเกาะสมุยนำเรือออกตรวจสอบกลางทะเล หลังรับแจ้งพบคราบน้ำมันอาจมาจากเรือไร้สัญชาติที่ทัพเรือภาคที่ 2 ตรวจยึดได้และจมลงใต้ทะเลขณะลากกลับเข้าฝั่ง จากการตรวจสอบเป็นการเกิดแพลงก์ตอนบลูม หรือการตายของแพลงก์ตอนพืช

เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 นายอรุณ บุปผโก ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาค สาขาเกาะสมุย ได้รับแจ้งจาก นาวาเอก(พิเศษ) วศากร สุนทรนันท์ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่ามีกระแสข่าวว่ามีผู้พบคราบน้ำมันลักษณะสีเขียวลอยอยู่กลางทะเล บริเวณเกาะมัดสุม เกาะแตน ซึ่งเป็นเกาะบริวารของเกาะสมุย โดยได้มีการระบุว่าเป็นคราบน้ำมันจากเรือไร้สัญชาติที่ทหารเรือได้เข้าตรวจสอบต่อมาเรือได้จมลงใต้ทะเลในพื้นที่ อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช

จากนั้นจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่นำเรือสปีดโบ๊ทเจ้าท่า ออกตรวจสอบน้ำทะเลบริเวณเกาะมัดสุม และเกาะแตน และจากการสอบถามเรือประมง เรือโป๊ะลากจูงสินค้า บริเวณดังกล่าว ไม่มีใครพบคราบน้ำมันตามที่ได้รับแจ้งมาแต่อย่างใด ส่วนคราบสีเขียวที่มีผู้พบและถ่ายรูปแชร์ในโซเชียลนั้น เป็นการเกิดแพลงก์ตอนบลูม หรือการตายของแพลงก์ตอนพืช

Advertisement

จากข้อมูลองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ หรือ Red Tide เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทะเลทั่วทุกมุมโลก สาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลของสาหร่ายเซลล์เดียวจำพวก “แพลงก์ตอนพืช” ในทะเลแถบนั้น หรือที่เรียกอีกชื่อว่า “แพลงก์ตอนบลูม” จำนวนประชากรของแพลงก์ตอนที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากนี้ ทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสี โดยปกติแล้วจะเป็นสีแดงหรือสีเขียว และบางทีอาจจะเป็นสีม่วงหรือสีชมพูก็ได้

การเกิดแพลงก์ตอนบลูมก็มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย อาทิ มีฝนตกหนัก และคลื่นลมแรงทำให้มีปริมาณธาตุอาหารและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของแพลงก์ตอน หรือ การเกิดน้ำผุด (up welling) เป็นขบวนการที่น้ำเบื้องล่างถูกพัดพาขึ้นมาเบื้องบน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image