น้ำแล้ง ข้าวส่อแห้งตาย ชาวนาปากน้ำโพโอด ต้องซื้อน้ำทำนา ไร่ละ 500 บาท

น้ำแล้ง ข้าวส่อแห้งตาย ชาวนาปากน้ำโพโอด ต้องซื้อน้ำทำนา ไร่ละ 500 บาท

เมื่อวันที่ 18 มกราคม เกษตรกรในหลายพื้นที่ของตำบลบ้านแก่ง อำเภอเมือง จ.นครสวรรค์ แจ้งมาว่า ขณะนี้สภาพคลองชลประทาน แหล่งน้ำธรรมชาติสภาพน้ำแห้งขอด นาข้าวหลายพันไร่กำลังยืนต้นตายเพราะปลูกไว้ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง เมื่อลงพื้นที่ไปก็พบว่าสภาพพื้นดินนาข้าวกำลังแห้งเหี่ยว ดินแตกระแหง ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงข้าวที่หว่านไว้เป็นระยะเวลาหลายเดือนหลังน้ำลดที่ผ่านมา เกษตรกรกำลังติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อผันน้ำในคลองขนมจีนที่ไหลมาจากแม่น้ำปิง ในอำเภอบรรพตพิสัยที่เหลือไม่มากนัก แย่งกันนำมาใส่นาข้าวของตน จะเห็นเครื่องสูบน้ำเรียงรายจำนวนมากริมคลองชลประทาน หลังพื้นที่นาเริ่มขาดแคลนน้ำเนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งเริ่มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

นายมังกร ชาวนาหมู่ที่ 2 ตำบลบ้านแก่ง อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ บอกว่า ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาน้ำในคลองขนมจีนซึ่งเป็นคลองชลประทานรับน้ำจากแม่น้ำปิง จากอำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ปริมาณน้ำเริ่มลดลงเรื่อยๆ จนขณะนี้น้ำเหลือน้อยนิดไม่พอจะสูบมาเลี้ยงข้าวที่หว่านไปช่วงน้ำลดที่ผ่านมาไม่กี่เดือนได้ มีปริมาณน้ำเหลือน้อยไม่เพียงพอและไม่สามารถสูบขึ้นไปใช้ทำนาได้

“ขณะนี้ชาวบ้านต้องช่วยเหลือตัวเองรวมตัวกันเก็บเงินชาวนาที่ต้องการน้ำ เพื่อไปซื้อน้ำจากคนที่เขามีเครื่องปั่นน้ำไฟฟ้าที่ติดตั้งในอำเภอบรรพตพิสัย ให้สูบน้ำด้วยไฟฟ้าใส่ลงคลองชลประทานมาให้ชาวนาในอำเภอเมืองนครสวรรค์ได้สูบน้ำเพื่อเลี้ยงนาข้าว โดยชาวนาที่ต้องการน้ำจะต้องเสียเงินไร่ละ 500 บาท เป็นค่าจ้าง ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า เมื่อน้ำมาก็ต้องสูบขึ้นมาใส่นาข้าวของตนเอง ซึ่งต้องรับภาระต้นทุนหลายต่อ ทั้งค่าซื้อน้ำ ค่าน้ำมันรถไถนา แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเสียดายข้าวที่ปลูกไว้ แม้จะเพิ่มต้นทุนมากขึ้นแต่เป็นวิธีเดียวที่จะช่วยให้ข้าวรอดตายช่วงหน้าแล้งนี้หากไม่ทำข้าวก็จะยืนต้นตายแล้งในที่สุด”

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image