สวนปาล์มสุราษฎร์ เผยผลผลิตลดดันราคาพุ่ง แต่ชาวสวนไม่ได้ประโยชน์ ปุ๋ยขึ้นกว่า 100%

สวนปาล์มสุราษฎร์ เผยผลผลิตลดดันราคาพุ่ง แต่ชาวสวนไม่ได้ประโยชน์ ปุ๋ยขึ้นกว่า 100% ด้านโรงสกัดแฉราคาเกินจริงหวังดึงสต๊อกได้ราคา

เมื่อวันที่ 22 มกราคม นายบำรุง หนูด้วง ที่ปรึกษาสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ปี 2556 สาขาพืชสวน เปิดเผยว่า ราคาผลปาล์มน้ำมันที่ดีดตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา โดยล่าสุดราคาผลปาล์มทะลายในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนเฉลี่ยกิโลกรัมละ 11-12 บาท ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการของตลาดโลก เนื่องจากมีปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ หรือ CPO ออกสู่ตลาดน้อยที่มีผลมาจากประเทศยักษ์ใหญ่ คือ มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ขาดแคลนแรงงานภาคเกษตรกร ทำให้ไม่สามารถนำวัตถุดิบเข้าสู่โรงงานสกัดได้

นายบำรุง กล่าวว่า ส่วนปัจจัยที่สำคัญของประเทศไทยมาจากสภาวะอากาศที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ-ลานีญา ซึ่งส่งผลต่อการให้ผลผลิตของพืชทุกชนิดโดยเฉพาะปาล์มน้ำมันซึ่งเป็นพืชที่ต้องการน้ำมากเป็นพิเศษ ทำให้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาต้นปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตที่ลดลง ซึ่งขณะนี้ภาพรวมผลผลิตปาล์มทั้งประเทศเหลือเพียงร้อยละ 40 เท่านั้น

“ที่เรามองเห็นราคาผลปาล์มดิบที่ถีบตัวสูงขึ้น แล้วเชื่อกันว่าเป็นผลดีต่อเกษตรกรชาวสวนปาล์มนั้นไม่เป็นความจริง เพราะปัจจุบันต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ยเคมี ราคาได้ขยับตัวขึ้นไปกว่าร้อยละ 100-120 ซึ่งหากมองต้นทุนการผลิตที่แท้จริง จะพบว่าเกษตรกรเองไม่ได้มีผลประโยชน์จากราคาผลปาล์มน้ำมันที่ราคาสูงขึ้นแต่อย่างใด และเชื่อว่าหลังจากเดือนเมษายนนี้ เราจะต้องประสบกับภาวะราคาผลปาล์มน้ำมันผันผวนอีกครั้ง ขณะที่รัฐบาลเองยังไม่สามารถแก้ปัญหาราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นได้” นายบำรุง กล่าว

Advertisement

ด้านแหล่งข่าวผู้ประกอบธุรกิจโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรายหนึ่ง กล่าวว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาผลปาล์มน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นจนเกินความเป็นจริงมาจากกลุ่มโรงงานเองที่ต้องการนำวัตถุดิบเข้าระบบ เพื่อดึงราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ให้สามารถขายน้ำมันในสต๊อกก่อนหน้านี้ให้ได้ตามราคาปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้พบว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบCPO ของประเทศไทยราคาอยู่ที่ 56 บาท ขณะที่ประเทศมาเลเซียและอินโอนีเซียอยู่ที่ 46 บาท

“ล่าสุดพบว่า อุตสาหกรรมตลาดบริโภคเริ่มชะลอการซื้อแล้ว เนื่องจากราคา CPO ที่สูงเกินความเป็นจริง และจะส่งผลต่อความผันผวนของราคาผลปาล์มน้ำมันอีกครั้งราวเดือนเมษายน เนื่องจากเป็นช่วงที่ปาล์มให้ผลผลิตมากที่สุดของปี” ผู้ประกอบการ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image