ชัยภูมิ-เปิดกล้องวงจรปิดจับภาพเร่งไล่ล่าหัวขโมยแสบ ขับเก๋งแอบขโมยของอุปกรณ์การแข่งขันของนักกีฬาโซนหุบเขาหายยกทีมแทบใจสลาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวานนี้ (24 มกราคม) ได้เกิดเรื่องราวสะเทือนใจขึ้นกับกลุ่มนักกีฬาโซนหุบเขา จ.ชัยภูมิ หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Torslur Ngorknavung เปิดเผยว่า ขออนุญาตฝากประชาสัมพันธ์ตามล่ามิจฉาชีพ วันนี้ช่วงเวลาประมาณ 10 โมงเช้า นักกีฬาฟุตบอลโรงเรียนคอนสวรรค์ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ได้เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันกีฬาโซนหุบเขาที่ จ.ชัยภูมิ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี 2519 โดยปีนี้จัดแข่งช่วงวันที่ 24-26 มกราคม 2565 ณ สนามการแข่งขันทั้ง 12 สนาม ภายใน จ.ชัยภูมิ
ทั้งนี้ ในรอบจังหวัดที่โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล ขณะที่นักเรียนแข่งขันฟุตซอลอยู่นั้น และกำลังจะไปแข่งขันต่อที่สนามฟุตบอลวิทยาลัยพลศึกษา ทั้งคณะครูฝึกและนักเรียนได้กลับมาที่รถเก็บอุปกรณ์ในการเข้ามาร่วมแข่งขัน แต่พบว่ารองเท้าสตั๊ด โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ กุญแจรถมอเตอร์ไซค์ โดนขโมยหายไปทั้งหมด ทำให้ไม่มีอุปกรณ์ไปทำการแข่งขันต่อได้ทันเวลา
จึงพากันไปแจ้งความที่ สภ.เมืองชัยภูมิ พร้อมหลักฐานกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพกลุ่มคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุไว้ได้ และเห็นชัดว่าเป็นรถเก๋งขับถอยเข้าไปเทียบข้างรถกระบะที่เก็บอุปกรณ์ของกลุ่มนักกีฬาโรงเรียนคอนสวรรค์ ก่อนจะเปิดประตูรถเก๋งนำของนักเรียนมาใส่รถตนเองแล้วรีบขับหลบหนี ตอนนี้ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายกลุ่มนี้อยู่
เหตุการณ์ดังกล่าว นายสุชาติ ดุงชีพ อายุ 40 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนคอนสวรรค์ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ นำหลักฐานทั้งภาพและกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ธีรพันธ์ สุนทรวิภาต รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ โดยมีนักเรียนที่เป็นนักกีฬาและเป็นผู้เสียหายเข้าแจ้งความรวมกว่า 13 รายแล้ว
นายสุชาติกล่าวว่า ได้พานักเรียนซึ่งเป็นนักกีฬาฟุตซอลของโรงเรียนมาจากตัวแทนอำเภอคอนสวรรค์ เพื่อมาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโซนหุบเขาในปีนี้ และต้องมาแข่งขันในจุดแรกวันนี้อยู่ภายในโดมของโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล ซึ่งจะมีช่วงแข่งขันไปจนถึงในรอบชิงชนะเลิศตั้งแต่วันที่ 24-26 ม.ค.65 ตนได้ขับรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู ป้ายทะเบียน กค 7042 ชัยภูมิ ด้านหลังติดแครี่บอยและปิดอย่างแน่นหนาเพื่อให้นักเรียนได้เก็บของ
นายสุชาติกล่าวว่า ได้จอดรถไว้ด้านหน้าอาคารใหม่ของโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล กระทั่งใกล้เวลาเข้าแข่งขันจึงให้นักเรียนเปลี่ยนชุดเพื่อทำการแข่งขัน โดยให้นักเรียนทั้ง 13 คน ที่จะทำการแข่งขันนำกระเป๋าเงิน สิ่งของเครื่องใช้ กุญแจรถ และรองเท้า มาเก็บไว้ด้านหลังรถ จากนั้นให้นักกีฬาไปทำการแข่งขันจนแล้วเสร็จ กระทั่งเสร็จกิจกรรมการแข่งกีฬานักเรียนจึงเดินมาเปลี่ยนชุดกลับพบว่าของทั้งหมดหายไปจากรถ
นายสุชาติกล่าวว่า ตนจึงรีบมาดูที่รถและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่ารถเก๋งคันดังกล่าวได้มาขโมยของที่รถตนก่อนจะขับหลบหนีไป จึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดและพานักเรียนทั้ง 13 คน เข้ามาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ทำให้ทุกคนเสียโอกาสและเสียกำลังใจ เพราะไม่สามารถหาอุปกรณ์ได้ทันกับการแข่งขันสนามต่อๆ ไป
หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.ธีรพันธ์ได้สอบสวนนักเรียนบางส่วน พร้อมนำภาพจากกล้องวงจรปิดให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ เร่งตรวจสอบเพื่อติดตามดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุต่อไป
