สองผู้ปกครองสองมุมมอง หลังเด็กชาย 9 ขวบวิ่งกลับบ้านเลือดเต็มใบหน้า เผยแม่เพื่อนรุ่นเดียวกันตบจนเลือดกำเดาสาด อีกฝั่งแจงให้เด็กกลับบ้านเพราะแม่เรียก แต่ไม่กลับ ทั้งยังด่าสวน เข้าไปจับมือบอกให้พูดเพราะๆ แต่เด็กสะบัดมืออย่างแรง ทำให้มือไปโดนจมูกจนเลือดกำเดาไหล ยืนยันไม่เคยคิดร้ายกับเด็ก
เมื่อวันที่ 25 มกราคม น.ส.ธันยพัฒน์ กาญจน์ธนศิริ อายุ 47 ปี ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.จิรโรจน์ มงคลธนสุพัฒนื สารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หลังจากน้องคุล หลานชายวัย 9 ขวบ ถูกทำร้ายจนเลือดเต็มใบหน้า น.ส.ธันยพัฒน์เล่าว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา น้องคุล หลานของตัวเองวัย 9 ขวบ ได้ไปเล่นกับเพื่อน จึงไปตามหาว่าเห็นน้องคุลไหม แต่ตอนนั้นไม่เจอ ประมาณ 30 นาทีผ่านไปน้องคุลวิ่งกลับบ้านในสภาพเลือดอาบเต็มใบหน้า จึงสอบถามไปว่าใครเป็นคนทำ หลานบอกว่าอาของเพื่อน เป็นคนเอามือตบใบหน้า จึงทำการล้างเลือดออก แล้วพาหลานไปหาหมอ แต่ไม่พบบาดแผล เลือดที่ไหลออกมาเป็นเลือดกำเดา หมอให้กลับบ้าน จึงไปต่อว่าคนที่กระทำหลานตัวเอง แต่กลับปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ทั้งที่หลานตัวเองบอกชัดเจนว่าโดนตบ จึงเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
ขณะที่ น.ส.นุช (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี คนที่เด็กกล่าวหาว่าเป็นคนตบ เล่าว่า วันนั้นน้องคุลมาเล่นกับหลานที่บ้าน แต่น้องคุลพูดจาไม่ไพเราะ ใช้คำว่ากูมึงตลอดเวลา ต่อมาป้าน้องคุลได้มาตามให้กลับบ้านแต่น้องไม่กลับ ตนพยายามบอกให้น้องกลับ แต่ไม่ยอม ทั้งยังใช้วาจาไม่สุภาพว่า “กูยังไม่กลับ จะกลับตอนไหนก็ได้” ตนเห็นไม่เข้าท่าจึงเข้าไปคว้าแขนน้องบอกว่าให้พูดจาเพราะกว่านี้ และให้กลับบ้านเพราะแม่มาตาม
น.ส.นุชกล่าวว่า ทันใดนั้นน้องคุลได้สะบัดมืออย่างแรงเพื่อขัดขืน ทำให้มือของตนสะบัดตามไปด้วยแล้วไปโดนจมูกน้อง ก่อนจะเห็นเลือดไหลออกมา คาดว่าเป็นเลือดกำเดา เมื่อจะพาน้องไปล้างน้องกลับบอกว่า “เรื่องของกู” แล้ววิ่งออกจากบ้านไป ยืนยันไม่เคยคิดทำร้ายเด็ก
