สรุปแล้ว ‘ปู่ป่าละอู’ แห่งป่าแก่งกระจานเสียชีวิต เพราะแผลการต่อสู้กับเพื่อนช้าง

 

สรุปแล้ว ‘ปู่ป่าละอู’ แห่งป่าแก่งกระจานเสียชีวิต เพราะแผลการต่อสู้กับเพื่อนช้าง แต่ในร่างพบกระสุนเก่า 126 นัด ผู้ยิงมีความผิด ตร.เร่งสืบหาดำเนินคดี

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 25 มกราคม ที่ห้องประชุม สภ.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอแก่งกระจาน นายอิทธิพล ไทยกมล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พ.ต.อ.หญิง เอกจิตตรา มีไชยธร นวท.(สบ 4) พิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี พ.ต.อ.อำนวย ฉ่ำมะนา ผกก.สภ.แก่งกระจาน และคณะร่วมประชุม และสรุปผลการเสียชีวิตของช้างพลายงาด้วน ชื่อ “คุณปู่ป่าละอู” อายุ 60 ปี หลังล้ม (ตาย) ลงและมีผลชันสูตรผ่าศพพบมีลูกกระสุนฝังอยู่ในร่างกายจำนวนมาก

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 มกราคม อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พบช้างพลายงาด้วน “คุณปู่ป่าละอู” ที่ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน ในสภาพได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลบริเวณลำตัวหลายจุด เจ้าหน้าที่อุทยานฯแก่ง ได้ประสานนายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ “หมอล็อต” สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ชุดกู้ภัยและช่วยเหลือสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ร่วมกับทีมสัตวแพทย์ สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 ประทับช้าง สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย ทหารชุดเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ และเจ้าหน้าที่สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย ทำการรักษา

Advertisement

เบื้องต้นพบ “คุณปู่ป่าละอู” มีบาดแผลจากการต่อสู้กับช้างตัวอื่น ที่บริเวณหัวและบริเวณกลางลำตัว ตรวจด้วยเครื่องตรวจโลหะ พบว่ามีโลหะอยู่ภายในบาดแผลทั่วทั้งร่างกาย บาดแผลหลายแห่งค่อนข้างลึก และมีการติดเชื้อในกระแสเลือดระดับรุนแรง มีหนองไหลจากแผลบริเวณท้ายลำตัว ร่างกายอ่อนแอ ซูบผอม ประกอบกับเป็นช้างป่าที่อายุมากแล้ว อาการจึงอยู่ในภาวะวิกฤต และต่อมาวันที่ 22 มกราคม “คุณปู่ป่าละอู” ได้ล้มลงอย่างสงบใกล้บริเวณอ่างเก็บน้ำกะหร่าง 3 อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บ้านป่าแดง หมู่ 3 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน และต่อมา ได้เคลื่อนย้ายซาก “คุณปู่ป่าละอู” ไปผ่าพิสูจน์ ทำพิธีสวดบังสุกุลและฝังกลบที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ 7 (เขาหุบเต่า)

พ.ต.อ.หญิง เอกจิตตรา และคณะเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ เปิดเผยว่า ได้ทำการผ่าพิสูจน์ซากช้างป่า ผลปรากฏว่า พบหัวกระสุนปืนเก่า คาดว่าจะถูกยิงมานานหลายปี และบางส่วนที่คาดว่าเพิ่งถูกยิงไม่นาน ในตัวซากช้างป่า บริเวณสะโพกหลัง ช่วงท้องฝั่งขวา บนหัวฝั่งขวา รวมจำนวน 126 ลูก ประกอบด้วย ลูกตะกั่ว (กระสุนปืนลูกปราย) จำนวน 117 ลูก ลูกกระสุนปืนลูกกรด ขนาด .22 ขนาด .22 long rifle จำนวน 7 ลูก ลูกกระสุนปืนรีวอลเวอร์ขนาด .32 long จำนวน 1 ลูก และลูกตะกั่วใหญ่ (แบบหล่อเอง) จำนวน 1 ลูก ซึ่งจะนำกระสุนทั้งหมดไปทำการตรวจสอบเพื่อหาผู้กระทำผิดต่อไป

Advertisement

นายอิทธิพล หน.อุทยานฯ เปิดเผยว่า ในพื้นที่ ต.ป่าเด็ง ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ มีประมาณ 180 ตัว ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องช้างเข้ามาทำลายพืชไร่ ผลผลิตทางการเกษตรชาวบ้านหลายครั้ง ทำให้มีความรุนแรงระหว่างคนกับช้าง บางครั้งถึงกับมีการใช้อาวุธปืนยิงไล่ ทำให้ช้างได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อุทยานฯร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำสิ่งกั้นขวาง อาทิ รั้วกั้นช้าง และหน่วยลาดตระเวนไล่ช้างพยายามผลักดันให้ช้างกลับเข้าไปอยู่ในป่า ตลอดจนทำความเข้าใจกับชาวบ้านเมื่อมีช้างบุกรุก ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินการขับไล่แทนเพื่อลดความรุนแรงลง ซึ่งก็ได้ผลในระดับหนึ่ง และต้องขอความร่วมมือกับชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดปัญหาของทั้งคนทั้งช้างต่อไป ส่วนปัญหาเรื่องพรานล่าช้างในพื้นที่แก่งกระจานไม่พบมานานแล้ว

ด้าน พล.ต.ต.อุทัยกล่าวว่า เบื้องต้นคณะเจ้าหน้าที่ร่วมกันพิจารณาแล้ว การเสียชีวิตของช้างป่าดังกล่าว เป็นผลจากบาดแผลติดเชื้อจากการถูกงาแทง และถูกกระสุนปืนจำนวนมากที่ถูกยิง ทั้งนี้ บาดแผลจากการถูกยิงดังกล่าวมีทั้งแผลเก่านานหลายปี และแผลใหม่ จากความเห็นของทีมสัตว์แพทย์พบว่า ลูกกระสุนที่พบเป็นกระสุนขนาดเล็ก ซึ่งไม่มีประสิทธิภาพให้ช้างบาดเจ็บถึงตายในทันทีได้ จึงคาดว่าไม่น่าจะเป็นการยิงเพื่อเอาชีวิต หรือเกิดจากการล่าของพราน แต่น่าจะเป็นการยิงขู่ขับไล่จากชาวบ้านขณะที่ช้างเข้าไปทำลายผลผลิตทางการเกษตรมากกว่า ส่วนสาเหตุหลักในการตายของช้างน่าจะเกิดจากบาดแผลใหญ่ที่เกิดจากการต่อสู้กับช้างด้วยกันเอง และอาจประกอบกับบาดแผลกระสุนปืนที่อักเสบทำให้ช้าง “คุณปู่ป่าละอู” ที่มีอายุมากมีภูมิต้านทานน้อย ทำให้แผลติดเชื้ออักเสบ ทรุดหนักและไม่สามารถทนไหวจึงล้มตายลง แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ใดล่าช้างป่าด้วยประการใดๆ ที่ทำให้ช้างป่าเสียชีวิต เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ซึ่งจะได้ทำการตรวจสอบและสืบสวนหาผู้กระทำผิดต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image