หนุ่มวัย 31 ปี ใช้เหล็กแหลมกระหน่ำแทงใบหน้าแม่ดับ ก่อนขี่มอเตอร์ไซค์หนี ชาวบ้านช่วยจับไว้ได้ เผยเคยเสพยาจนสติไม่สมประกอบ แม่พาไปรักษาแต่ไม่ยอมกินยา สุดท้ายไม่พอใจแม่ที่เอากุญแจรถมอเตอร์ไซค์ทิ้งไม่ให้ออกไปไหน จึงก่อเหตุ คนเห็นเล่าระทึกวินาทีกระหน่ำแทง
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ร.ต.ท.พรชัย บำรุงศิลป์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ต.พระครู อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีเหตุลูกชายฆ่าแม่ตัวเองจนเสียชีวิต ชาวบ้านได้ช่วยกันจับกุมตัวไว้แล้ว จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม และแพทย์เวรโรงพยาบาลบุรีรัมย์ เข้าร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านปูนชั้นเดียวมีรั้วรอบขอบชิด พบศพนางสำเนียง ไพรวรรณ์ อายุ 56 ปี เสียชีวิตในลักษณะนอนหงาย ใบหน้าเป็นแผลเหวอะหวะเนื่องจากถูกของมีคมแทงกว่า 20 แผล ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายประวิทย์ ดีชัยรัมย์ อายุ 32 ปี ลูกชายของนางสำเนียง ได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาชาวบ้านได้ช่วยกันจับตัวไว้ได้ ก่อนส่งตัวให้ชุดสืบสวนไปสอบปากคำต่อที่ สภ.เมือง
สอบถาม น.ส.สมร ดีรบรัมย์ อายุ 31 ปี ลูกสะใภ้ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ช่วงนั้นขี่รถจักรยานยนต์จะเข้าบ้าน เห็นนายประวิทย์นั่งคร่อมร่างแม่ แล้วใช้เหล็กแทงทีละแผลๆ อย่างใจเย็น ตนจึงตะโกนว่าทำอะไรแม่มึง นายประวิทย์ได้หันมามอง แล้วปรี่เข้ามาจะทำร้ายตน จึงรีบขี่รถหนี จากนั้นเห็นนายประวิทย์ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไป จึงไปบอกสามีซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ให้ชาวบ้านไล่ตามจับตัวมาได้ดังกล่าว
นายชาติ นาระรัมย์ อายุ 46 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต บอกว่า หลานเคยติดยาเสพติดมาก่อน เมื่อประมาณ 8-9 ปีที่ผ่านมา หลานมีอาการหลอน คล้ายคนป่วยจิตเวช แม่ได้พาไปรักษาโรงพยาบาลประสาท ที่ จ.นครราชสีมา เป็นประจำ ล่าสุด เพิ่งออกจาก รพ.เมื่อวันที่ 3 ก.พ. แต่ไม่ยอมกินยาที่หมอจ่ายให้ พี่สาว ซึ่งเป็นแม่ของนายประวิทย์ต้องเดินตามง้อขอให้กินยา แต่ไม่ยอมกิน วันนี้นายประวิทย์จะขี่รถจักรยานยนต์ออกไปเที่ยว แต่แม่ไม่ให้เพราะยังไม่กินยา ฝ่ายแม่จึงดึงกุญแจรถออก แล้วเอาไปซ่อน อาจเป็นชนวนเหตุสำคัญที่หลานก่อเหตุในครั้งนี้
ขณะที่นายคาวี ดีชัยรัมย์ อายุ 33 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและเป็นพี่ชายผู้ก่อเหตุ เล่าว่า แม่พานายประวิทย์รักษามานาน และนายประวิทย์มักจะทำร้ายแม่เวลาไม่ได้กินยา หรือบังคับให้กินยา เหตุการณ์ครั้งนี้คาดว่ามูลเหตุคือแม่เอากุญแจรถไปซ่อน
