ผบช.ภาค 7 แถลงคดีฆ่าสาวยัดกล่อง เร่งสรุปสำนวน ผู้ต้องหาสารภาพเสพยาบ้าก่อนลงมือ

คนร้าย สุพรรณบุรี

ผบช.ภาค 7 แถลงคดีฆ่าสาวยัดกล่อง เร่งสรุปสำนวน ผู้ต้องหาสารภาพเสพยาบ้าก่อนลงมือ

จากกรณี เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุ พบกล่องต้องสงสัย ห่อด้วยถุงดำ มีกลิ่นเน่าเหม็นอยู่ในพงหญ้าข้างแพลนปูน หมู่ 7 ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จนท.จึงได้ตรวจสอบ ต่อมาพบว่า เป็นศพของน้องเต็น (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ถูกคนร้ายฆ่าเปลือยยัดกล่องพลาสติกสีดำมัดด้วยเชือกยืดรัดของ จนสืบทราบต่อมาว่าผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ คือนายแป๊บ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ชาว จ.กาฬสินธ์ุ

หลังจากนั้น พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ชัยชาญพัฒน์ ยติรัตน์กัญญา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ประสานพื้นที่ตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ได้สามารถจับกุมได้ที่บ้านของภรรยา นายแป๊บ และนำกำลังไปรับตัวเพื่อมาสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง เนื่องจากมีปากเสียงทะเลาะกัน จึงตกลงกันไม่ได้ ก่อนที่จะบีบคอจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีมาอยู่ที่บ้านภรรยาที่บ้านมะงง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 6 ก.พ. เวลา 10.00 น. ที่สภ.เมืองสุพรรณบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 (สส) พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี คดีฆาตกรรมยัดกล่องซุกในพงหญ้าข้างแพลนปูน โดย ผบช.ภ.7 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปสำนวน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้ลงมาสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง ก่อนทำการแถลงคดี

เสพยาบ้าก่อนลงมือ

Advertisement

ด้าน พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่สามารถบูรณาการร่วมกันทำงานจนสามารถจับกุมคนร้ายอย่างรวดเร็ว ในคดีนี้ โดยท่าน ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 7 บูรณาการทุกภาคส่วน เร่งรัดสืบสวนติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีที่อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและกระทบจิตใจของญาติผู้เสียชีวิตและประชาชน และต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ซึ่งทางตำรวจขอยืนยันจะคืนความเป็นธรรมให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยจะมอบหมายให้ รอง ผบช.ภ.7 ลงมาควบคุมสำนวนการสอบสวนด้วยตัวเอง พร้อมจะเร่งรัดสรุปสำนวนการสอบสวนนำเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมให้เร็วที่สุด ซึ่งได้สั่งให้ฝ่ายสอบสวน สืบสวน พิสูจน์หลักฐาน ทำการสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากผู้ต้องหามีอาการมีเคร่งเครียด จึงต้องสอบสวนอย่างรัดกุมอย่างละเอียด ส่วนมูลเหตุที่แท้จริงในการก่อเหตุครั้งนี้ ว่าต้องฆ่านั้นเพราะอะไร ต้องขอเวลาให้ทีมสอบสวน สืบสวน ได้ทำงานก่อน และรอผลชันสูตรจากสถาบันนิติเวชอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อความชัดเจน

Advertisement

ด้านบิดาผู้ตาย พร้อมครอบครัวผู้เสียชีวิต ได้เดินทางนำกระเช้ามามอบให้ ผบช.ภาค 7 เพื่อขอบคุณที่ตำรวจทำงานจับผู้ร้ายได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตนไม่เชื่อว่าลูกสาวจะคบกับคนร้ายตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งอยากบอกกับผู้ต้องหาว่า ทำแบบนี้กับลูกผมทำไม ยอมรับว่าตอนนี้โกรธแค้นมาก ผมรักลูกสาวผมมาก ขอยืนยันว่าลูกสาวไม่ได้คบหากับผู้ต้องหา และที่ลงมือก่อเหตุ ก็น่าจะมาจากการเสพยาไปด้วย ไม่งั้น คงไม่ทำอะไรรุนแรงแบบนี้ วันนี้ตนได้มอบแหวนให้ เพื่อนคนงานที่ไปพบศพน้องเต็น เพื่อเป็นการขอบคุณ โดยคนงานคนดังกล่าวมอบแหวนต่อให้แม่และพี่สาว เพื่อทำบุญให้น้องเต็นต่อไป

ส่วนด้านการทำแผน ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการเดินทางไปทำแผนแต่อย่างใด ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติม เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าจะทำคนเดียว จะมีคนอื่นรู้เห็นด้วยหรือไม่ เพราะผู้ต้องหาได้มีการให้ นายโมยคนงานชาวพม่า ที่ห้องพักด้านล่างมาช่วยขนของ โดยอ้างว่าเป็นกล่องขยะ (ซึ่งภายในนั้นเป็นกล่องใส่ศพผู้ต้องหา) เพื่อนำไปไว้ด้านล่างของอาคาร อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องมีการสอบสวนอย่างละเอียด รัดกุม ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และต้องมีการสอบสวนหาวัตถุพยานเพิ่มเติมอีก สำหรับข้อหาของผู้ต้องหา ในความผิดฐาน 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.ฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image