ปิดคดีคนร้ายยิงประธานหน่วยกู้ภัยดับคาบ้านพักที่แม่สาย
กรณีเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.64 มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายสังวุฒิ คำมงคล อายุ 60 ปี ประธานสมาคมปิยะมิตรแม่สายร่วมใจ บรรเทาสาธารณภัยและการกุศล เสียชีวิตภายในบ้านของตัวเอง เลขที่ 36/1 หมู่บ้านสันถนนใต้ หมู่ 2 ตำบลศรีเมืองชุม อำเภอแม่สาย คดีนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้ให้ความสนใจและลงไปติดตามคดีร่วมกับ พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนะพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย จนได้เบาะแสว่าคนร้ายนำอาวุธปืนลูกซองยาว ที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งในลำน้ำกลางทุ่งนา ห่างจากบ้านนายสังวุฒิประมาณ 3 กิโลเมตร เมื่อนำนักประดาน้ำไปงมค้นหาจึงได้พบอาวุธปืนของกลางดังกล่าว
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.65 ศาลจังหวัดเชียงราย อนุมัติจับ นายเป็ง คำตา อายุ 70 ปี ชาวตำบลม่วงคำ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมีเหตุอันสมควร” หลังทีมสืบสวนมีเบาะแสเชื่อว่าเป็นผู้ที่ชี้เป้าให้มือปืน โดยไปจับกุมนายเป็งได้ขณะอยู่หน้าร้านขายของชำภายในหมู่บ้านในพื้นที่ตำบลม่วงคำ แต่เบื้องต้นนายเป็งให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้
จากนั้นขยายผลจนทราบผู้จัดหามือปืนและมือปืน วันที่ 9 ก.พ.65 ศาลจังหวัดเชียงราย อนุมัติหมายจับเพิ่มอีก คนแรกคือ นายสูนย์ เหล็กป้อ อายุ71ปี ชาวตำบลสันกลาง อำเภอพาน ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นมือปืน แต่เมื่อไปตรวจสอบที่บ้านกลับไม่พบตัวโดยมีผู้พบเห็นว่าขี่จักรยานยนต์ออกนอกบ้านไปแล้ว จึงอยู่ระหว่างติดตามจับกุม และคนที่ 2 คือ นายคงศักดิ์ ตั๋นเบี้ย อายุ 54 ปี ปัจจุบันเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลเมืองพาน อำเภอพาน โดยนายคงศักดิ์ได้เดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่ด้วยตนเอง และถูกจับกุมตามหมายจับซึ่งเจ้าตัวให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา นอกจากนั้นยังมี นายภัคพล บุญญารัตนกุล อายุ35ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่สงสัยว่าจะเป็นผู้ทำหน้าที่รับส่งมือปืน ได้เข้าไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาเดียวกับ 3 คนแรก แต่ได้ให้ประกันตัวออกไปสู้คดีได้โดยเบื้องต้นนายภัคพลให้การปฏิเสธเช่นกัน
สำหรับนายสังวุฒิ เคยถูกคนร้ายลอบยิงมาแล้วเมื่อปลายปี 2561 แต่รอดมาได้ โดยมีปมสังหารมาจากความขัดแย้งเรื่องธุรกิจนอกระบบในฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ทำให้คนบงการที่อยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้ว่าจ้างมือปืนให้มาฆ่านายสังวุฒิเพื่อแก้แค้นอีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้ใช้ซุ้มมือปืนเมืองพานซึ่งแม้ว่าแต่ละคนมีอายุมากแล้วแต่ยังมีฝีมืออยู่ เมื่อคนในซุ้มได้รับงานจึงแยกกันออกปฏิบัติการโดยมีคนติดต่อและจัดหามือปืน มือปืน คนชี้เป้า และคนนำพา โดยก่อนลงมือสังหารคนชี้เป้าได้นำมือปืนไปนอนพักที่บ้านญาติใกล้กับบ้านของเหยื่อมาแล้วจนทำให้มีคนพบเห็น กระทั่งวันก่อเหตุผู้นำพาได้นำรถไปรับมือปืนไปส่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร จากนั้นมือปืนได้เดินผ่านทุ่งนาเพื่อเลี่ยงกล้องวงจรปิดในตัวเมืองแม่สาย ไปซุ่มอยู่ที่หลังบ้านและจ่อยิงนายสังวุฒิจนเสียชีวิต เมื่อเสร็จงานได้หลบหนีผ่านทุ่งนาเช่นเดิม และนำปืนไปซ่อนในท่อน้ำกลางทุ่งนา 20 วัน ก่อนจะกลับไปเอาปืนไปทิ้งในลำน้ำกระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบและไปงมค้นหาจนเจอและกลายเป็นหลักฐานสำคัญที่นำมาสู่การปิดคดีนี้ลงอย่างสวยงาม
