ปิดตลาดสดพรเจริญ จ.บึงกาฬ หลังตรวจ ATK พบผลบวก 50 ราย ยืนยันรักษาที่บ้านปลอดภัย

ปิดตลาดสดพรเจริญ จ.บึงกาฬ หลังตรวจ ATK พบผลบวก 50 ราย ยืนยันรักษาที่บ้านปลอดภัย

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เวลา 16.00 น. ที่บริเวณตลาดสดเทศบาลพรเจริญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ร.ต.ต.ดร.ไพรรัตน์ วุฒิสาร นายกเทศมนตรีตำบลพรเจริญ ร่วมกับนางวินิจ โพธิ์เวียง ปลัดเทศบาล และนายสุรศักดิ์ เกษงาม ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เข้าฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อภายในตลาดสดเทศบาลตำบลพรเจริญ หลังพบแม่ค้าขายผัก ติดเชื้อโควิด-19 ในตลาด และตรวจ ATK ให้กับพ่อค้าแม่ค้าในตลาดทั้งหมด พบว่ามีผลบอก 50 ราย และส่งผลไปตรวจ RT-PCR อีกครั้ง เบื้องต้น สั่งปิดตลาดแห่งนี้เป็นเวลา 7 วัน คือวันที่ 11-17 ก.พ. นี้ และดูสถานการณ์อีกครั้ง

ด้านโรงพยาบาลบึงกาฬ เริ่มให้ผู้ป่วยโควิด ดูแลรักษาตัวเองที่บ้านแล้ว ยืนยันรักษาตัวเอง 5-7 วันก็ไม่พบเชื้อ พร้อมเปิดกระเป๋าสู้โควิด ที่จะมอบให้ผู้ติดเชื้อนำกลับไปรักษาที่บ้าน

Advertisement

นายแพทย์กมล แซ่ปึง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบึงกาฬ กล่าวว่า เนื่องจากสถานกาณณ์โควิด-19 ในประเทศ และในจังหวัดบึงกาฬ มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งแพร่ระบาดได้เร็ว ติดง่าย แสดงอาการเร็ว และหายเร็ว สายพันธุ์โอมิครอนพบสถิติทั่วโลกเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา 5 – 10 เท่า คนที่ติดเชื้อแล้วกว่า 80% อาจจะไม่มีอาการอะไรเลย หรืออาจจะไม่รู้ตัวหากไม่ได้ตรวจ หรือไม่มีอาการ หรืออาจจะมีอาการเพียงเล็กน้อย มีน้ำมูก มีไอ มีเจ็บคอนิดหน่อย และเชื้อไม่ค่อยลงปอดเหมือนสายพันธุ์เดลตา ที่ผ่านมาสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทย พบมีอาการรุนแรงประมาณ 5 % และใส่ท่อช่วยหายใจประมาณไม่ถึง 1 % จึงเป็นที่มาว่า จะติดง่ายแต่ไม่ค่อยรุนแรง และประชาชนก็สามารถดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะคนที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม สามารถป้องกันได้เยอะมาก โอกาสที่จะติดก็น้อย แต่ถ้ายังฉีดไม่ครบ 3 เข็ม หรือไม่ได้ฉีด ก็มีความเสี่ยงที่จะติดสายพันธุ์โอมิครอนได้ง่ายกว่า แต่ถึงจะติดก็ไม่ต้องตกใจ เราสามารถที่จะดูแลตัวเองได้

โดยตอนนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้รณรงค์ส่งเสริมให้ดูแลตัวเองที่บ้าน เนื่องจากว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ถ้าทุกคนมารักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้งหมด อาจจะเป็นการเพิ่มภาระมากเกินไป ทำให้อาจจะไม่สามารถดูแลคนไข้อื่นๆ ได้ ประกอบกับว่า สายพันธุ์โอมิครอนมีความรุนแรงน้อย จึงสามารถดูแลตัวเองที่บ้านหลังติดเชื้อได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ให้ผู้ป่วยดูแลตัวเองที่บ้านทุกคน เพราะการที่จะดูแลตัวเองที่บ้านได้ จะต้องประกอบด้วย 1.ผู้ป่วยต้องเป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวที่ร้ายแรง 2.อายุต้องน้อยกว่า 75 ปี 3.จะต้องมีสถานที่ที่สามารถแยกตัวเองไม่ให้ไปสัมผัสกับผู้อื่นในบ้านได้ 4.ทางโรงพยาบาลจะมีการจัดอุปกรณ์เครื่องมือในการดูแลตัวเองที่บ้านได้ ซึ่งประกอบไปด้วย เครื่องวัดระดับออกซิเจนในกระแสเลือด 2.เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย 3.ยาที่จำเป็นต้องใช้ และ 4.คู่มือแนะนำการปฏิบัติตัวเมื่ออยู่ที่บ้าน เพื่อดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้องพร้อมหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ประสานทางโรงพยาบาลที่จะใช้ในการติดต่อสื่อสาร ติดตามอาการ โดยทางโรงพยาบาลจะติดตามอาการผู้ป่วยทุกวัน อย่างน้อย 1-2 ครั้ง ถ้ามีความผิดปกติ เช่น มีไข้ขึ้นสูงกว่า 39 องศาเซลเซียส ติดต่อกันเกิน 24 ชั่วโมง หรือความรู้สึกอาการไม่ดีขึ้น หรือแย่ลง หรือโรคประจำตัวกำเริบรุนแรง ก็จะต้องมีการนำส่งผู้ป่วยมาที่โรงพยาบาล ซึ่งผู้ป่วยสามารถติดต่อกับโรงพยาบาลได้ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับการดูแลตัวเองที่บ้านนั้น มีหลักการทั่วๆไป คือ ต้องไม่ปนเปื้อนกับผู้อื่น แยกตัวจากผู้อื่นได้ มีห้องน้ำที่สามารถจะใช้ได้ แต่ห้องน้ำ บางครั้งด้วยพื้นฐานความจำเป็นของคนที่บ้าน อาจจะมีแค่ 1 แห่ง ซึ่งจริงๆก็สามารถใช้ได้ แต่ต้องจัดลำดับการเข้าห้องน้ำ หรือเข้าห้องน้ำเสร็จแล้วมีการทำความสะอาด ก็สามารถใช้ห้องน้ำร่วมกันได้ เพราะไม่ใช่ช่องทางหลักที่ทำให้ติดต่อกัน และอีกสิ่งที่สำคัญคือ อยากจะให้คนที่อยู่บ้านหลังเดียวกันได้รับการฉีดวัคซีน 3 เข็มด้วยก็จะยิ่งเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ทุกคน

Advertisement

โดยผู้อำนวยการโรงพยาบาลบึงกาฬ ย้ำว่า อยากให้ทุกคนมั่นใจว่า เราสามารถดูแลตัวเองที่บ้านได้อย่างปลอดภัยภายใต้การดูแลตัวเองของบุคลากรสาธารณสุขของเรา เราไม่ได้ทิ้งให้อยู่ที่บ้านโดยไม่มีการติดต่อสอบถาม แต่เรามีการเตรียมความพร้อมด้านอุปกรณ์เครื่องมือและการสื่อสารต่อเนื่องกัน ส่วนการติดเชื้อภายในบ้านมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น แต่จากข้อมูลที่ผ่านมาในการรักษาตัวเองที่บ้าน (Home Isolation) พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เราพบว่า มีการติดเชื้อในบ้านน้อยมาก เพราะทุกคนมีความห่วงใยกัน และพร้อมที่จะแยกตัวกัน ถ้าเราดูแลตามหลักการส่วนมากก็จะไม่ติดเชื้อ

ขณะที่ คุณอัญชลี ราชสินธ์ ผู้ป่วยที่รักษาตัวจนหายดี จากการดูแลรักษาตัวเองที่บ้าน ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่รับรู้ว่าติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากตนเป็นคนสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ก็ได้รับคำแนะนำให้กักตัวที่บ้าน ซึ่งในระหว่างนั้นก็กินยาตามที่คุณหมอสั่ง แล้วก็ออกกำลังกาย มีการวัดไข้ วัดค่าออกซิเจนส่งคุณหมอทุกวันเช้าเที่ยงเย็น จากเครื่องมือที่ได้รับจากโรงพยาบาล และคุณหมอก็ให้คำปรึกษาทุกวันเช่นกัน จึงไม่มีความกังวลใจใดๆ เลย นอกจากนี้ ยังเช็คอาการตนเองตลอดเวลา และในช่วงที่รักษาตัวเองที่บ้านไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมให้ข้อมูลด้วยว่า หลังจากกินยาไป 5-7 วันได้นำ ATK มาตรวจก็ไม่พบเชื้อแล้ว แต่ก็ได้กักตัวให้ครบ 10 วันตามคำแนะนำของคุณหมอ จึงอยากฝากไปถึงผู้ที่กำลังกังวลว่าต้องรักษาตัวเองที่บ้านว่า ขอให้ผู้ป่วยทุกคนทำใจให้สบาย ไม่ต้องกังวลอะไร เพราะจากที่ตนเป็นนั้น รู้สึกเหมือนเป็นไข้หวัด และไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่ทุกคนกลัว ซึ่งก็สามารถรักษาตัวเองที่บ้าน และหายได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image