ชาวบ้านปิล๊อกคี่ เรียกร้องให้กรมอุทยานฯผลักดันเสือเข้าป่าลึก หลังชาวบ้านพบร่องรอยเสือประชิดหมู่บ้านเข้ามาทุกขณะ ล่าสุดพบที่ริมห้วยปิล๊อก ห่างจากหมู่บ้านเพียง 1 กม.เศษ
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ภาพจากกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า ที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิฟรีแลนด์ (Freeland Foundation) และเจ้าหน้าที่อุทยานฯเขาแหลมนำไปติดตั้งไว้ในป่าบริเวณห้วยสะมะท้อ หมู่ 4 ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ พื้นที่เกิดเหตุที่เสือโคร่งทำร้ายนายหวาน ชาวบ้านปิล๊อกคี่ ขณะออกไปต้อนควายที่เลี้ยงไว้ในป่า จนทำให้นายหวานได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งบริเวณที่สามารถบันทึกภาพเสือโคร่งที่มีสภาพพิการขาหลัง ด้านขวาขาขาด คือป่าห้วยสะมะท้อ ห่างจากบ้านปิล๊อกคี่ประมาณ 3 กม.เศษ
โดยหลังพบเสือ นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้ทำหนังสือถึงผู้บริหารกรมอุทยานฯ ให้ส่งผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสือของกรมอุทยานฯลงพื้นที่เพื่อทำการผลักดัน หรือนำเสือออกจากพื้นที่ดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของเสือตัวที่พบและชาวบ้านปิล๊อกคี่กว่า 300 ครอบครัว
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่นายหวานถูกเสือทำร้าย และกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าสามารถบันทึกภาพเสือได้ในพื้นที่ป่าห้วยสะมะท้อ ทำให้ชาวบ้านพากันหวาดกลัว ไม่กล้าเข้าป่าไปดูแลวัวควายที่เลี้ยงไว้ในป่าใกล้หมู่บ้าน รวมทั้งไม่กล้าเข้าไปหาพืชผักและหาปลากินแบบพึ่งพาธรรมชาติตามวิถีที่เคยเป็นมา
นางดีเซมเบอ นายดา สองสามีภรรยาชาวบ้านปิล็อกคี่ที่มีบ้านอยู่ติดชายป่า (กลุ่มบ้านเกลิงแกละทะ) เปิดเผยว่า หลายครอบครัวต้องย้ายฝูงปศุสัตว์มาเลี้ยงและผูกไว้ใกล้บ้าน แม้จะต้องระวังฝูงปศุสัตว์ไปก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับเพื่อนบ้าน และต้องซื้อฟางก้อนมาเลี้ยง เพิ่มภาระค่าใช้จ่าย รวมทั้งต้องคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยยามค่ำคืน
ขณะที่ น.ส.สุดา อายุ 18 ปี ต้องพาลูกชายวัย 4 เดือน และสามีย้ายมาอาศัยนอนบ้านแม่นานกว่า 1 สัปดาห์ เนื่องจากบ้านของเธอและสามีเป็นบ้านหลังสุดท้ายของหมู่บ้านปิล๊อกคี่ที่อยู่ติดป่าห้วยสะมะท้อ ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์นายหวานถูกเสือทำร้ายและเจ้าหน้าที่พบว่ามีเสืออาศัยอยู่ใกล้หมู่บ้าน ทำให้เธอและสามีหวาดกลัวจนไม่กล้าที่จะอาศัยอยู่ที่บ้านต่อไป
นอกจากนี้ วานนี้ (12 กุมภาพันธ์) ชาวบ้านพบรอยเท้าเสือโคร่งปรากฏในพื้นที่ป่าใกล้หมู่บ้านปิล๊อกคี่ บริเวณริมห้วยปิล๊อก โดยรอยเท้าเสือที่พบครั้งนี้ห่างจากหมู่บ้านเพียงแค่ 1 กม.เศษเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านปิล๊อกคี่จึงอยากให้กรมอุทยานฯเร่งผลักดันเสือที่เหลือในพื้นที่อีก 3 ตัว ออกไปให้พ้นจากป่าบริเวณดังกล่าวโดยด่วน เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านปิล๊อกคี่และความปลอดภัยของเสือ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เสือโคร่งกัดชาวบ้านปิล๊อกคี่บาดเจ็บในเขต อช.เขาแหลม กรมอุทยานฯจัดกำลังระวังภัยแล้ว
- ชาวบ้านปิล๊อกคี่ ทยอยขายวัว-ควาย หวังลดความสูญเสีย หลังเสือเริ่มเข้าใกล้พื้นที่ จนอาหารสัตว์ขาด
- เสือโคร่งพิการ 3 ขา ยังไม่ไปไหน จนท.หดหู่ เจออุ้งตีนขาดสะบั้น
