ผวจ.ระยอง ยันพบรอยรั่วใหม่ตรงท่อใต้ทะเลจริง ทุกฝ่ายกำลังเร่งหาวิธีสกัดน้ำมันที่รั่วไหลออกมา
จากกรณีที่ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด มหาชน (SPRC) ยื่นหนังสือลงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ถึงสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด จ.ระยอง โดยเป็นการแจ้งเรื่อง ขอปฏิบัติงานพันท่อเพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำมัน โดยแนบหนังสือขั้นตอนหยุดการซึมของน้ำมันและพันปิดรอยรั่วที่ท่ออ่อนใต้ทะเล โดยบริษัทแจ้งว่า พบความเสียหายของท่อส่งน้ำมันใต้ทะเลอีกจุด เป็นจุดที่ 2 อยู่ด้านบนของจุดที่ 1 จุดนี้ยังคงมีน้ำมันรั่วไหลออกมาเป็นครั้งคราว และถ้ามีน้ำมันค้างอยู่ในท่ออ่อน ก็มีความเสี่ยงที่น้ำมันจะรั่วไหลออกมา เมื่อเกิดคลื่นลมรุนแรง หรือในระหว่างถอดท่อที่เสียหาย (ซึ่งเป็นขั้นตอนต่อไป)
ทั้งนี้ บริษัทแจ้งว่า เพื่อรักษาและป้องกันความเสียหายของท่ออ่อน และป้องกันน้ำมันรั่วไหลสู่ทะเล จึงต้องนำวัสดุมาห่อหุ้มรอยรั่วจุดที่ 2 โดยเร็ว ซึ่งในระหว่างดำเนินการใช้วัสดุพันปิดห่อหุ้มรอยรั่วแห่งที่ 2 อาจเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ทางบริษัทได้มีขั้นตอนเตรียมรับมือ จะดำเนินการดังนี้
1.ติดตั้งเต็นท์ดักจับน้ำมันบริเวณด้านบนของจุดรอยรั่ว
2.เตรียมเรืออย่างน้อย 10 ลำ สำหรับลากบูมอย่างน้อย 5 ปาก โดยเรือทุกลำสามารถใช้สำหรับฉีดสารขจัดคราบน้ำมัน dispersant
3.เตรียมเรืออย่างน้อย 3 ลำ สำหรับการฉีดสาร dispersant พร้อมแขนฉัด
4.ติดตั้งทุ่นกักน้ำมัน (boom) และอุปกรณ์กวาดน้ำมัน (skimmer) บริเวณที่ปฏิบัติงาน
5.นักดำน้ำ ดำบริเวณจุดที่มีรอยรั่ว เพื่อสังเกตตลอดเวลาการทำงาน พร้อมโดรนใต้น้ำเพื่อบินสำรวจใต้ทะเล
6.โดรนอากาศยาน เพื่อบินสำรวจทางอากาศ โดยการดำเนินการพันปิดห่อหุ้มจุดน้ำมันรั่วไหลจุดที่ 2 ดังกล่าวนี้ กำลังอยู่ระหว่างรอการอนุญาตจากกรมเจ้าท่า และ สภ.มาบตาพุด ตามที่เสนอไปแล้ว
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า กรณีที่ SPRC ส่งหนังสือถึง สภ.มาบตาพุด เพื่อขอเข้าแก้ไขจุดรั่วใหม่ใกล้กับจุดรั่วที่ 2 ตรงท่อน้ำมันใต้ทะเล แล้วยังมีน้ำมันไหลออกมาเป็นครั้งคราว สำหรับการรั่วของท่อน้ำมัน ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดรั่วของท่อในครั้งที่ 2 พบว่า ยังมีน้ำมันที่ค้างท่อไหลออกมาเป็นครั้งคราว แต่ไม่มาก ซึ่งมีการเฝ้าระวังเตรียมพร้อมอยู่แล้ว
ผู้ว่าฯระยองกล่าวว่า กรณีที่มีการขออนุญาตจาก SPRC ขณะนี้ฝ่ายเทคนิคอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล เพื่อหาทางแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนต่อไป
ด้าน SPRC เตรียมแถลงข้อมูลความคืบหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป
