เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายก อบจ.ปทุมธานี นายสาคร อำภิน รองนายก อบจ.ปทุมธานี นายธีรวุฒิ กลิ่นกุสุม นายกเทศมนตรีนครรังสิต นายเอกชัย กลิ่นกุสุม ส.อบจ.เขตธัญบุรี นายชูชาติ ศุภวรรธนางกูร ชลประทานจังหวัดปทุมธานี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวและสื่อมวลชน ลงเรือสำรวจปริมาณน้ำภายในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ตั้งแต่คลองชลประทานที่ 1-คลองชลประทานที่ 3 เนื่องจากขณะนี้ได้มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอีกทั้งจะเป็นการสำรวจปริมาณน้ำที่ระบายผ่านประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ลงสู่เจ้าพระยาว่ามีปริมาณเท่าไหร่เพื่อนำมาบริหารจัดการการระบายน้ำไม่ให้กระทบเข้าเขตกรุงเทพฯ
นายสุรชัยเปิดเผยว่า จากการสำรวจปริมาณน้ำนั้นได้ผ่านจุดระดับวิกฤตไปแล้วตอนนี้อยู่ในช่วงของการบริหารจัดการน้ำในตอนบนให้ผ่านจังหวัดปทุมธานีลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาโดยเร็วที่สุดในส่วนของปริมาณน้ำที่ยังมีอยู่มากในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดนครนายกและกรุงเทพฯนั้น ทางเราเชื่อว่าประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ซึ่งสามารถช่วยเหลือในการระบายน้ำจากพื้นที่อื่นที่ได้รับผลกระทบได้อย่างดี อีกทั้งหากมีปริมาณน้ำฝนมาเติมในช่วงนี้ทางเราคาดว่าจะบริหารจัดการได้หากฝนที่ตกจะตกหน้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์หรือตกในพื้นที่ลุ่มภาคกลางนั้น ทางเราก็สามารถบริหารจัดการได้อย่างดีเพราะผ่านจุดวิกฤตหนักมาแล้ว
ด้านนายชาญกล่าวว่า จากการลงเรือสำรวจปริมาณน้ำภายในลำคลองรังสิตประยูรศักดิ์ระดับน้ำคงที่แต่ยังพบว่ายังมีน้ำทางตอนเหนือมีการสะสมของน้ำตามทุ่งนาจำนวนมากและจากการที่ทางเรานำเรือยนต์ขนาดใหญ่จำนวน 8 ลำมาบริหารจัดการน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ระดับน้ำตามทุ่งนาทางตอนเหนือที่มีการสะสมมานานนั้นสามารถระบายออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้เกือบหมดแล้วและหากว่าในช่วงสัปดาห์นี้ไม่มีปริมาณฝนมาเติมก็จะสามารถระบายน้ำที่มีการสะสมให้หมดไปได้ และคาดว่าน้ำจะไม่ท่วมเหมือนปี 2554 อย่างแน่นอน
