เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม จากการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะพื้นที่ราบลุ่ม และติดกับแม่น้ำ ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำชีตลอดทั้งสายในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ยังคงหนุนสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำเอ่อเข้าท่วมนาข้าวของเกษตรกรใน อ.ฆ้องชัย อ.ร่องคำ อ.กมลาไสยแล้วกว่า 2,500 ไร่ และเริ่มขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดจากปริมาณน้ำที่หนุนสูงทำให้ปริมาณน้ำในห้วยดอกไม้และลำห้วยต่างๆ ในพื้นที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้เริ่มเอ่อเข้าท่วมนาข้าวและบ่อปลาของเกษตรกรในพื้นที่ ต.ยางตลาด ต.หัวงัว และ ต.อุ่มเม่า กว่า 300 ไร่ เนื่องจากไม่สามารถระบายลงสู่แม่น้ำชีได้ ทำให้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานต้องลงพื้นที่สำรวจและวางแนวทางการป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเพิ่ม
ล่าสุดนายเกรียงไกร กิริวรรณา นายอำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้ ร.ต.ประธาน ประไชโย หัวหน้าชุดปฏิบัติการ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ นายคูณ สุขรี่ ปลัดอำเภอยางตลาดฝ่ายป้องกัน นางละม่อม สุนทรชัย เกษตรอำเภอยางตลาด พร้อมด้วยเกษตรตำบล เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องถิ่นลงพื้นที่เข้าสำรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ต.ยางตลาด ต.หัวงัว และ ต.อุ่มเม่า ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรใน 3 ตำบล ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 300 ไร่ บ่อปลาอีก 13 ไร่ ซึ่งสาเหตุเกิดจากปริมาณน้ำในลำลำห้วยดอกไม้ และลำห้วยต่างๆในพื้นที่ ซึ่งเชื่อมกันกับแม่น้ำปาวและแม่น้ำชี ไม่สามารถไหลลงไปได้ เพราะแม่น้ำทั้งสองสายมีปริมาณน้ำหนุนสูง จึงเอ่อเข้าท่วมนาข้าวดังกล่าว ซึ่งน้ำยังคงทรงตัว และมีแนวโน้มสูงขึ้น ทั้งนี้หากปริมาณน้ำยังไม่ลดลงคาดว่านาข้าวทั้งหมดจะเสียหาย ทางอำเภอยางตลาดจึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งทำการสำรวจ เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในอีก 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย และ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย และเป็นพื้นที่ติดกับแม่น้ำชี ขณะนี้ปริมาณน้ำยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาปริมาณน้ำเอ่อเข้าท่วมนาข้าวทั้ง 3 อำเภอแล้วกว่า 2,500 ไร่ และขณะนี้กำลังขยายวงกว้างท่วมนาข้าวเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 2,500 ไร่ เนื่องจากมวลน้ำจาก จ.ชัยภูมิ และเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น กำลังไหลเข้ามายังพื้นที่ ซึ่งทางจังหวัดได้สั่งเตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำ และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว
