วัดหลวงพ่อโต สีคิ้ว โต้ข่าวถังแตก หลัง ‘สรพงศ์’ ป่วย ไม่ได้มาต้อนรับ นทท.

วัดหลวงพ่อโต สีคิ้ว โต้ข่าวถังแตก หลังสรพงศ์ป่วย ยันพนักงานทุกคนยังได้รับเงินเดือนตามปกติ แถมยังขึ้นเงินเดือนให้อีกด้วย ขณะที่นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางมาเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

ภายหลังจากที่มีสื่อสำนักหนึ่ง รายงานข่าวว่า ที่วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา หรือวัดหลวงพ่อโตสีคิ้ว กำลังถังแตก เนื่องจากสรพงษ์ ชาตรี ป่วยหนัก รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ไม่ได้เข้ามาต้อนรับนักท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวหายไปหมด จึงไม่มีรายได้เข้ามาใช้จ่ายค่าเงินเดือนเจ้าหน้าที่ และพนักงานในวัดหลวงพ่อโต ส่งผลให้พนักงานไม่ได้รับเงินเดือน และมีหลายคนต้องไปตกปลาเพื่อมาประกอบอาหารเลี้ยงชีพ ด้วยความยากลำบากนั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา หรือวัดหลวงพ่อโต พบว่ายังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมากราบไหว้รูปหล่อหลวงพ่อโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่คอยกล่าวต้อนรับอยู่บริเวณทางเข้าวิหาร จุดที่ สรพงศ์ ชาตรีคยมานั่งและยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวได้ตามปกติ ส่วนบริเวณโรงทาน ที่ปกติจะมีการจัดเลี้ยงราดหน้าหลวงพ่อโตเป็นประจำทุกวัน ได้ให้ปิดบริการชั่วคราว เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

Advertisement

โดย นางสุจิตร อายุ 60 ปี กรรมการมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) เปิดเผยว่า จากข่าวที่ออกไปว่าวัดหลวงพ่อโตไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา หลังจากที่สรพงศ์ป่วย จนทำให้ขาดรายได้ และไม่มีเงินเดือนจ่ายให้พนักงานนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะทุกวันนี้ก็ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวได้ตามปกติ และนักท่องเที่ยวก็เดินทางมาด้วยความศรัทธาในหลวงพ่อโต ทุกคนต้องการมากราบสักการะรูปหล่อหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ที่สุดในโลกที่วิหารฯ และแม้ว่าวันนี้จะไม่มีสรพงศ์มาให้การต้อนรับเหมือนปกติ แต่นักท่องเที่ยวทุกคนก็เข้าใจ และรู้ว่าสรพงศ์ป่วย หลายคนที่มากราบสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และบารมีของหลวงพ่อโต ช่วยดลบันดาลให้สรพงศ์หายป่วยโดยเร็ว เพื่อที่จะได้กลับมากล่าวต้อนรับที่วัดหลวงพ่อโตได้อีกครั้ง

ส่วนกรณีที่นักท่องเที่ยวน้อยลงนั้น ก็เป็นเพราะเรื่องของการระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นเหมือนกับสถานที่ ท่องเที่ยวทุกที่ ทางวัดหลวงพ่อโตก็ได้ปิดจุดให้บริการโรงทานราดหน้าหลวงพ่อโต เพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของโรค ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ไม่ใช่เพราะสาเหตุที่สรพงศ์ป่วยแต่อย่างใด

Advertisement

ส่วนเรื่องการจ่ายเงินเดือนของเจ้าหน้าที่และพนักงานที่วัดหลวงพ่อโตนั้น ทุกวันนี้ก็ยังมีการจ่ายเงินเดือนตามปกติ และเมื่อต้นเดือนนี้ก็เพิ่งจะขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงานหลายคนด้วยซ้ำ ดังนั้น ข่าวที่ออกไปจึงถือว่าเป็นข่าวที่ไม่มีข้อเท็จจริงแต่อย่างใด

ด้าน น.ส.ฐิดาวัลคุ์ อายุ 42 ปี พนักงานร้านกาแฟหลวงปู่โต กล่าวว่า ตนทำงานอยู่ที่วัดหลวงพ่อโตแห่งนี้มานานนับ 10 ปีแล้ว ก็ได้รับเงินเดือนตรงตามเวลาทุกเดือน แถมในเดือนนี้ยังได้ปรับขึ้นเงินเดือนให้อีก ดังนั้น ข่าวที่ว่าพนักงานไม่ได้เงินเดือนจึงไม่เป็นความจริง ทุกวันนี้ทุกคนยังได้รับเงินเดือนตามปกติ

ขณะที่ นางสมสุข อายุ 69 ปี นักท่องเที่ยวจากอำเภอปากช่อง กล่าวว่า ที่เดินทางมาที่วัดหลวงพ่อโตแห่งนี้ เนื่องจากครอบครัวมีความเคารพศรัทธาต่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) จึงอยากมากราบไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัว แม้ว่าตอนนี้สรพงศ์จะป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลก็ตาม แต่ตนก็ยังมาเที่ยวเหมือนเดิม และมาขอพรให้หลวงพ่อโตช่วยดลบันดาลให้สรพงศ์หายป่วยไวๆ ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image