โควิดทำวิกฤตหนัก เด็กสมุยอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้เพิ่ม หลังปิดร.ร. วอนเปิดเรียนตามปกติ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ภายในห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายชยพล อินทรสุภา นายอำเภอเกาะสมุย/ประธานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะสมุย ประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะสมุย เพื่อประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยหลังจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับรับทราบปัญหา แนวทางการปฏิบัติ ขั้นตอนการแก้ไข และการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด
ขณะเดียวกัน นางสาวเบญจวรรณ บุญสิน นายกสมาคมครูและการศึกษาอำเภอเกาะสมุย พร้อมด้วยผู้อำนวยการโรงเรียนจากสถานศึกษาต่างๆ ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดได้ส่งผลกระทบกับการเรียนการสอนโรงเรียนในอำเภอเกาะสมุยอย่างหนักในขณะนี้ เนื่องจากการสั่งปิดโรงเรียนที่ผ่านมาส่งผลให้นักเรียนที่เป็นเด็กเล็กไม่สามารถอ่านออกเสียงและเขียนได้ ทั้งที่ก่อนการสั่งปิดโรงเรียนนักเรียนสามารถอ่านออกเสียงและเขียนได้
“โดยก่อนหน้านี้มีเด็กนักเรียนติดเชื้อโควิดเพียงคนเดียวและไม่เป็นคลัสเตอร์ในโรงเรียน แต่ถูกสั่งปิดโรงเรียน ที่ผ่านมาโรงเรียนในอำเภอเกาะสมุยต่างปรับการเรียนการสอนตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด และดำเนินการตามมาตรการ 44 ข้อ ตามที่สาธารณสุขอำเภอเกาะสมุยกำหนด แต่โรงเรียนก็ยังถูกคำสั่งปิดการเรียนการสอน จึงต้องการมาตรการที่ชัดเจนเพื่อจะดำเนินการเปิดเรียนได้ตามปกติ เพราะอีก 3 สัปดาห์โรงเรียนจะปิดเทอม เพื่อให้โรงเรียนได้ทำการสอบและเก็บคะแนนเด็กนักเรียน”
นางสาวเบญจวรรณ บุญสิน นายกสมาคมครูและการศึกษาอำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า ปัญหาการเรียนการสอนในขณะนี้ว่า ปัญหาของโรงเรียนต่างๆ คือไม่ได้เปิดให้นักเรียนมาโรงเรียน เพียงแต่เปิดเรียนทางออนไลน์ ซึ่งศักยภาพของเด็กที่สำคัญแต่ละครอบครัวของเด็กมีศักยภาพที่ต่างกัน และพบอีกว่าเด็กนักเรียนที่เรียนจบระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อ่านออกเขียนได้ แต่เมื่อขึ้นชั่นประถมศึกษาปีที่ 2 เรียนออนไลน์เกิดภาวะถดถอยในการเรียนรู้ เนื่องจากผู้ปกครองต้องไปทำมาหากินไม่มีเวลาสอนและดูแลลูกให้เรียนระบบออนไลน์ ส่งผลให้เด็กไม่สามารถอ่านออกเสียง เขียนได้ ด้วยมาตรการของสาธารณสุขอำเภอเกาะสมุยมีความเข้มข้นเกินไป ทำให้ครูไม่ได้พบกับนักเรียน ทำให้โรงเรียนไม่ได้ใช้แผนเผชิญเหตุใน 44 ข้อที่กำหนดเลย นอกจากนี้มาตรการในการให้นักเรียนจะต้องตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK นั้น งบประมาณของโรงเรียนซื้อชุดตรวจ ATK ได้ 2 ครั้งก็หมดแล้ว และถ้าหากจะให้ผู้ปกครองไปซื้อชุดตรวจเองนั้นคงเป็นไปได้ยาก เพราะชุดตรวจที่มีขายชุดประมาณ 150 บาท ถ้ามีลูก 2 คนจะต้องจ่ายถึง 300 บาท
