เชียงใหม่แนะ ปชช. ATK ผลเป็นบวก ประสานรักษาในระบบ รองผู้ว่าฯยันคุมสถานการณ์ได้

แฟ้มภาพ

จังหวัดเชียงใหม่แนะนำผู้ที่ตรวจ ATK แล้วพบผลบวก ให้ประสานเข้ารับการรักษาในระบบอย่างทั่วถึง ขณะเดียวกันได้เชิญชวนให้ฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กนักเรียน รองรับการเปิดเรียนออนไซต์ให้มากที่สุด

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้ทุกอำเภอใน จ.เชียงใหม่ ติดตามการปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนที่สงสัยว่าหากตรวจ ATK แล้วพบว่าผลเป็นบวก จะแบ่งเป็น 2 กรณี คือตรวจ ATK ด้วยตนเอง แล้วพบว่าผลเป็นบวก สามารถติดต่อศูนย์ประสานงานของแต่ละอำเภอ หรือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โทรสายด่วน 1330 เพื่อขึ้นทะเบียนและรับยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อใช้ในการรักษา

สำหรับผู้ที่ตรวจ ATK แล้วพบว่าผลเป็นบวกที่สถานพยาบาล จะได้รับรหัสผู้ติดเชื้อ และได้รับการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ จากนั้นเข้าสู่การประเมินอาการและความเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง โดยการพิจารณาตรวจเพิ่มเติมตามความเห็นของแพทย์ว่าจะต้องนอนโรงพยาบาล

กรณีที่เป็นผู้ป่วยที่มีอาการมาก หรือมีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยรุนแรงได้ หรือแยกกักตัวที่บ้าน ตามระบบ Home Isolation (HI) ซึ่งผู้ป่วยสามารถเลือกได้ว่าจะแยกกักตัวที่บ้าน หรือกักตัวในสถานที่รัฐจัดหาให้ โดยมีหน่วยงานในชุมชนช่วยกันดูแลอย่างใกล้ชิด จากนั้นทำการรักษาโดยการแยกกักตัวติดตามอาการ 5 วัน หรือจนกว่าอาการจะดีขึ้น และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ให้แยกตัวเองที่บ้านต่ออีก 5 วัน จนครบ 10 นับ จากวันที่เริ่มป่วยหรือเริ่มมีอาการ

วันเดียวกัน นายวรญาณ บุญณราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในรายการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่พบประชาชนว่า แนวโน้มของผู้ติดเชื้อขณะนี้มีเพิ่มขึ้น เนื่องจากการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ของทางราชการเพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติมากที่สุด แต่สถานการณ์ทั่วไปยังสามารถควบคุมได้ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรการของรัฐที่ดูแลและควบคุมอย่างเข้มงวด และเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัดที่สุด โดยสถานการณ์เรื่องวัคซีนของเชียงใหม่ในขณะนี้เป็นไปตามแผนการทำงานที่วางไว้ ซึ่งประชาชนชาวเชียงใหม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็ม 1 และเข็ม 2 แล้วกว่าร้อยละ 92 ทำให้ได้รับความรุนแรงของโรคโควิด-19 ลดลง ทั้งนี้ ยังได้เริ่มฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5-11 ปี แล้ว เพื่อเตรียมพร้อมขับเคลื่อนด้านการศึกษาต่อไป

Advertisement

ด้านนางยุพิน บัวคอม ศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เริ่มฉีดวัคซีนให้กับเด็ก 7 กลุ่มโรค เริ่มที่โรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่เป็นอันดับแรก ส่วนกลุ่มเด็กทั่วไปขณะนี้ได้เริ่มทยอยฉีดแล้วกว่า 7,000 คน เริ่มที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จากนั้นเริ่มกระจายไปในแต่ละอำเภอของ จ.เชียงใหม่ ซึ่งโรงพยาบาลในพื้นที่จะได้รับมอบหมายให้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับแต่ละโรงเรียน และภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถฉีดได้จำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานสถานศึกษาสำรวจยอดของเด็กที่ต้องการฉีดวัคซีนเพิ่มเติม เพื่อให้เด็กนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้มากที่สุด ทั้งนี้ ยังได้เน้นย้ำหน่วยงานสถานศึกษาทุกแห่งให้ปฏิบัติตามมาตรการและแผนการรับมือที่วางไว้อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งกำชับให้สถานศึกษาที่เปิดเรียนออนไซต์รายงานสถานการณ์หลังเปิดเรียน รวมถึงแนวทางการบริหารจัดการให้สำนักงานควบคุมโรค หรือ สคร. ทราบด้วยเพื่อการติดตามอย่างใกล้ชิด

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จ.เชียงใหม่ วันนี้ พบผู้ติดเชื้อยืนยัน 258 ราย และพบผู้ติดเชื้อเข้าข่าย 2,464 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ขอให้ประชาชนเคร่งครัดในมาตรการป้องกันตนเอง พร้อมทั้งเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ร่วมกันและลดความรุนแรงของโรคที่จะตามมา

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image