กก.โรคติดต่ออุดรฯ สั่ง 2 โรงเรียนดัง จัดสอบเข้าเรียนต่อ ม.1, ม.4 ห้องพิเศษ ไม่ต้องไปตรวจ ATK ที่โรงพยาบาล ให้ตรวจเองที่บ้าน ผู้ปกครองรับรองก็พอ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 มีนาคม ที่ห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ชั้น 5 อาคาร 1 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายวันชัย จันทร์พร รองผู้ว่าฯอุดรธานี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.อุดรธานี เพื่อติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ จ.อุดรธานี และพิจารณาปรับเพิ่ม-ลดมาตรการป้องกันแก้ไขการระบาด โดยมีนายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว รองผู้ว่าฯอุดรธานี นำคณะกรรมการ และคณะทำงาน ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ร่วมประชุมประจำสัปดาห์
นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี รายงานว่า การระบาดของโควิด-19 ของอุดรธานี ยังอยู่ในระดับสูง 200 บวก-ลบ เป็นลำดับที่ 24 ของประเทศ ในสถานการณ์สายพันธุ์โอมิครอนมีการระบาดรวดเร็ว แต่ความรุนแรงน้อย และมีการบริหารจัดการเตียงได้ดี ทำให้ยังคงเหลือเตียงสีแดง 32 เตียง และเตียงสีเหลือง 602 เตียง แตกต่างจากการระบาดในครั้งก่อน รุนแรงจนเหลือเฉพาะเตียงสีเขียว
นายอุเทนกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะได้รับการประเมิน ดังนี้ กลุ่มแรก หากมีอาการรุนแรง หรือเป็นกลุ่มเสี่ยง จะเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล, กลุ่มที่สอง มีอาการไม่รุนแรง ให้รักษาตัวอยู่ที่บ้านแบบ HI คือมอบอุปกรณ์ตรวจประเมิน โทรติดตามอาการทุกวัน จ่ายยาตามอาการ มีระบบส่งต่อเมื่ออาการแย่ลง บริการมอบอาหาร 3 มื้อ เฝ้าดูอาการ 10 วัน และ กลุ่มที่สาม ไม่มีอาการ รักษาตัวที่บ้านแบบ OPD เหมือนกับ HI ยกเว้นไม่มีอุปกรณ์ตรวจประเมิน โทรติดต่ออาการ 1 ครั้ง จ่ายยาตามอาการ และมีระบบส่งต่อ เพื่อรองรับโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น
ด้านนายแพทย์สุมน ตั้งสุนทรวิวัฒน์ รอง ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี กล่าวว่า โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน การแพร่ระบาดเร็วเร็วก็จริง แต่อาการเท่ากับไข้หวัดทั่วไป ถ้ามีภูมิคุ้มกันและไม่ใช่กลุ่มเสียง กักตัวรักษาตัวเอง 10 วันก็จะหายไปเอง เราจะต้องทำความเข้าใจกับประชาชน อย่างกรณีการสอบเข้าศึกษาต่อห้องเรียนพิเศษ ของโรงเรียนอุดรพิทยานุกูลและสตรีราชินูทิศ ในวันอาทิตย์ที่ 6 และจันทร์ที่ 7 มี.ค.นี้ วันละเกือบ 2,000 คน โรงเรียนต้องการให้ผู้สอบตรวจ ATK จากสถานพยาบาลไปแสดง ซึ่งเราต้องการให้พิจารณาปรับแก้
“การที่นักเรียนไปสอบในห้อง ทุกคนสวมหน้ากาก นั่งเว้นระยะห่าง ไม่ได้มีกิจกรรมอื่นใด เพียงพอกับการป้องกันเชื้อไม่ให้แพร่ระบาดอยู่แล้ว แต่หากให้นักเรียนไปตรวจ ATK ตามโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล จะมีความเสี่ยงมากกว่า อาทิ รพ.อุดรธานี มีผู้ป่วยรักษาอยู่เกือบ 200 คน มีผู้ติดเชื้อมารับบ็อกซ์เซ็ตไปรักษาตัวที่บ้านอีกหลายร้อยคน มีกลุ่มเสี่ยงมาตรวจหาเชื้ออีก และยังผลักภาระค่าใช้จ่ายให้พ่อแม่ผู้ปกครอง” นายแพทย์สุมนกล่าว
ด้านนายวันชัยกล่าวสรุปหลังจากรับฟังความเห็นที่ประชุมว่า ให้แจ้งไปยังผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนอุดรพิทยานุกูลและสตรีราชินูทิศ เพื่อแจ้งไปยังผู้ปกครองและนักเรียนที่จะมาสอบเข้าศึกษาต่อ ไม่ต้องไปตรวจ ATK ที่โรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล ให้พ่อแม่ผู้ปกครองจัดหาชุดตรวจ ATK เพื่อตรวจเองก่อนเข้าสอบไม่เกิน 72 ชม. และให้พ่อแม่ผู้ปกครองรับรองผลการตรวจ เพื่อมาประกอบการเข้าสอบ
