ชาวบึงนครขอความเป็นธรรม ค้านทหารใช้ที่ดินทำกิน สร้างที่ซ้อมรบกระสุนจริง โดนอ้างอยู่ในเขต น.ส.ล.

ชาวบ้านบึงนครยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อนายอำเภอหัวหิน กรณีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินมานานกว่า 50 ปี ทับซ้อนอยู่ในเขตทหาร ด้านศูนย์การทหารราบแจ้งให้ออกนอกพื้นที่เพื่อเตรียมสถานที่ซ้อมรบด้วยกระสุนจริง นายอำเภอหัวหินยันต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาใหม่ๆ เร่งจัดทำข้อมูลราษฎร พิกัดที่ตั้งที่อยู่อาศัย และแปลงทำกินให้ชัดเจน

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม นายพันธ์ศักดิ์ เพชรพิทักษ์ชน อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยชาวบ้านใน ต.บึงนคร กว่า 100 คน เดินทางไปหน้าที่ว่าการอำเภอหัวหิน เพื่อยื่นหนังสือต่อนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหินมี โดยมี พ.อ.อังคาร เอื้อนิธิรัตน์ หัวหน้ากองส่งกำลังบำรุง ศูนย์การทหารราบ, พ.ต.อ.หงส์พรหม วิศิษฐ์ชนะชัย ผกก.สภ.หัวหิน, นายประยูร ขันแก้ว นายก อบต.บึงนคร, นายสุวิทย์ น้ำกลั่น กำนันตำบลบึงนคร ร่วมรับมอบ

การยื่นหนังสือครั้งนี้เป็นการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านบึงนคร ซึ่งขณะนี้กำลังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากมีทหารจากศูนย์การทหารราบนำแผ่นป้ายข้อความไปติดไว้ตามบ้านเรือน แจ้งให้ย้ายออกนอกพื้นที่ และรีบเก็บเกี่ยวผลผลิตภายใน 30 วัน เนื่องจากจะมีการใช้พื้นที่จัดตั้งศูนย์ฝึกทางยุทธวิธีกองทัพบก แห่งที่ 2 โดยจะมีการฝึกซ้อมรบกระสุนจริง บนเนื้อที่ 120,000 ไร่ จะส่งผลกระทบให้ชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ปลูกสับปะรด สวนยางพารา ปลูกกล้วย ต้องไร้ที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทำมาหากิน กระทบต่อรายได้และภาวะหนี้สิน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19

รวมทั้งขณะนี้ศูนย์การทหารราบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีแนวทางแก้ไข หรือมาตรการเยียวยาให้กับชาวบ้านที่ชัดเจน โดยชาวบ้านยืนยันจะไม่ย้ายออกไปจนกว่าจะได้รับคำตอบที่น่าพอใจด้วยกันทุกฝ่าย

Advertisement

นายพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า ตนพร้อมชาวบ้านใน ต.บึงนคร ได้มายื่นหนังสือความเป็นธรรมต่ออำเภอหัวหิน เป็นแห่งแรก เนื่องจากที่ผ่านมามีการปิดป้ายข้อความขอให้ประชาชนในหมู่ 1 และหมู่ 9 ย้ายออกจากพื้นที่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขต น.ส.ล. (หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง) ซึ่งศูนย์การทหารราบจะเข้าใช้พื้นที่ จำนวน 120,000 ไร่ เพื่อฝึกซ้อมรบกระสุนจริง โดยไม่มีมาตรการเยียวยาใดๆ ที่ชัดเจน อยากให้หน่วยงานภาครัฐ ฝ่ายทหาร และทุกภาคส่วนเข้ามาแก้ปัญหาโดยด่วน

นายพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า ชาวบ้านจะคัดค้านเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด และจะรวมตัวกันไปยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้กับหน่วยงานต่างๆ ทุกระดับ จนกว่าจะมีการตรวจสอบดำเนินการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจนเป็นที่พอใจด้วยกันทุกฝ่าย

Advertisement

ด้านนายพลกฤตกล่าวว่า ในเรื่องนี้จะต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง และตรวจจุด ทั้งฝ่ายทหารและฝ่ายพลเรือนก็อยากให้มีการแก้ไขให้สำเร็จลุล่วง ตรงตามวัตถุประสงค์ทั้งสองฝ่าย เชื่อว่ามีทางออก จะทำตามอำนาจหน้าที่ของฝ่ายปกครองอย่างดีที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านให้ได้มากที่สุด โดยจะต้องมีการประสานงานทั้งระดับท้องถิ่น ท้องที่ ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยทหาร จนถึงระดับสูงที่มีหน้าที่กำหนดนโยบาย

“วันนี้รับหนังสือไปแล้วจะไปตรวจสอบข้อมูล ดูแนวทางการดำเนินการว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ถ้าแนวทางที่ผ่านมาไม่ประสบผลสำเร็จ จะต้องมีการปรับเปลี่ยนหาแนวทางใหม่ จะต้องหาทางออกที่ดีกว่าเดิมให้กับชาวบ้าน” นายพลกฤตกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังยื่นหนังสือ นายอำเภอหัวหินได้ประชุมร่วมกันกับฝ่ายปกครอง ตัวแทนทหารจากศูนย์การทหารราบ และตัวแทนชาวบ้าน ได้ข้อสรุปเบื้องต้นคือจะต้องมีการจัดทำข้อมูลราษฎร ตำแหน่งที่ตั้งบ้านที่อยู่อาศัย และแผนผังแปลงที่ดินของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เพื่อประกอบการพิจารณาและกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาในภาพรวม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image