ร้องผู้บังคับการ สภ.สกลนคร ถูกชายฉกรรจ์ 7 คน อ้างตำรวจยัดยา อุ้มเก็บเซฟเฮาส์เรียกเงิน 3 แสน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 17.00 น. ภาพกล้องวงจรปิดของนางเอ (นามสมมุติ) จับภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ 7 คน อ้างเป็นตำรวจบุกเข้ามายังบ้านลูกสาวและลูกเขยของนางเอ ขณะช่างกำลังก่อสร้างบ้าน ที่บ้านนาเดื่อ ต.นาแก้ว อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร ชายคนหนึ่งบุกถึงตัวนางเอ มีการล้วงกระเป๋ากางเกงด้านซ้ายอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะยื่นมือไปคว้ากระเป๋านางเอแล้วยัดสิ่งของบางอย่างเข้ากระเป๋า ทันใดนั้นก็บอกว่าในกระเป๋าของนางเอมียาเสพติด เป็นยาบ้าในถุงพลาสติก จำนวน 36 เม็ด จึงบังคับให้รับสารภาพ นางเอยืนยันตนไม่มีสิ่งของผิดกฎหมายจะให้สารภาพไม่ได้ จากนั้นคุมตัวเข้าไปในบ้านก่อนที่จะตรวจค้นโดยรอบประมาณ 10 นาที พร้อมกับดึงปลั๊กกล้องวงจรปิดออก แล้วคุมตัวคนงานรวมถึงนางเอไปในเขตอำเภอเมืองสกลนคร
นางเอกล่าวว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ที่เข้ามาตรวจค้นไม่แสดงบัตรเจ้าหน้าที่ หรือเอกสารใดๆ หลังเกิดเหตุถูกคุมตัวไปยังเซฟเฮาส์ มีการตรวจหาสารเสพติดทั้งตนเองและคนงานแต่ไม่พบ จากนั้นให้ตนโทรหาลูกสาวและลูกเขย ซึ่งขณะนั้นทั้งคู่อยู่ต่างจังหวัดเพื่อขอเงิน 3 แสนบาท แลกกับการปล่อยเป็นอิสระ แต่ตนไม่ได้โทร เขาคุยกันเอง ทราบต่อมาภายหลังว่าลูกสาวโอนเงิน 3 ครั้งคือ วันที่ 23 ก.พ. ครั้งแรก 30,000 บาท ครั้งที่สอง 20,000 บาท จากนั้นก็ปล่อยคนงาน 3 คน แต่ยังเหลือตนกับลูกสาววัย 5 ขวบ ที่ยังไม่ปล่อย ครั้งที่ 3 บ่ายวันที่ 24 ก.พ. จำนวน 50,000 บาท รวม 130,000 บาท ก่อนที่ช่วงเย็นจะพากลับไปส่งที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน และกำชับให้หาเงินส่วนที่เหลืออีก 150,000 บาทโอนไปให้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนหวาดกลัวจึงปรึกษาญาติๆ ได้แนะนำให้ไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่ สภ.โพนนาแก้ว และร้องเรียนไปยังตำรวจภูธรภาค 4 ว่ามีกลุ่มชายอ้างตัวเป็นตำรวจในจังหวัดสกลนครกระทำการดังกล่าวเพื่อขอความเป็นธรรม
วันนี้ (4 มีนาคม 2565) เวลา 17.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร พล.ต.ต.สรรธาน อินทรจักร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร มอบหมายให้ พ.ต.อ.เศกสรร สุขประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร แถลงข่าวข้อเท็จจริง ว่าจากกรณีชาย จำนวน 7 คนนั้น ตามที่มีผู้ร้องทุกข์แจ้งความดำเนินคดี ยืนยันเป็นตำรวจจริง ในเรื่องงานยาเสพติดผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นโดยเฉพาะ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เน้นย้ำจะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตไม่ว่าจะทางตรงและทางอ้อม กรณีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีทางอาญา ในส่วนตำรวจจะพิจารณา 2 เรื่องคือ เรื่องคดีอาญาและเรื่องการดำเนินการทางวินัย พนักงานสอบสวนมีเวลาดำเนินการใน 30 วัน ต้องมีความคืบหน้าเพื่อส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.พิจารณา ในข้อหาที่ผู้เสียหายร้องทุกข์คือ เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยไม่ชอบ ข่มขืนใจเพื่อให้ประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้สูญเสียเสรีภาพ ตอนนี้ให้ตำรวจทั้ง 7 นาย มาประจำอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร เพื่อป้องกันไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับคดี ระหว่างนี้ภายใน 60 วัน หากพบว่ามีมูลข้อเท็จจริงก็จะตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ยืนยันว่าจะต้องได้รับความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
ต่อมาผู้เสียหายที่ร้องทุกข์ได้เข้าพบ พ.ต.อ.เสกสรร สุขประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร เพื่อสอบถามความคืบหน้าและยื่นหนังสือเพื่อเร่งรัดให้ดำเนินคดีโดยเร็ว