เปิดใจ “สินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร”  ว่าที่ผู้สมัครนายกเมืองพัทยา กลุ่มพัทยาร่วมใจ

เปิดใจ “สินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร”  ว่าที่ผู้สมัครนายกเมืองพัทยา กลุ่มพัทยาร่วมใจ เผยเป็นคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ ขออาสาทำเพื่อคนพัทยา

หลังจากที่นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร อดีตนายกเมืองพัทยา ได้เปิดตัวน้องชาย นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร แกนนำ “กลุ่มพัทยาร่วมใจ” ลงสมัครนายกเมืองพัทยา หลังจากนั้น

ล่าสุดนายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร เปิดเผยว่า ตนรับไม้ต่อมาจากนายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร พี่ชายหลังจากได้มีการเปิดตัวมานานว่าจะลงสมัครนายกเมืองพัทยา ช่วงแรกได้ใช้คำว่า “คนบ้านเราพัฒนาบ้านเรา” เปลี่ยนมาเป็น “คนพัทยาเพื่อเมืองพัทยา” เนื่องจากพี่ชายหาเสียงมานาน จึงได้เปลี่ยนคำหาเสียงใหม่มาเป็น “คนพัทยาเพื่อเมืองพัทยา” เพื่อให้เข้ากับตัวตนเอง เพราะเป็นคนเมืองพัทยาตั้งแต่เกิด สร้างจุดแข็งให้กับตัวเอง ประกอบกับเคยเป็นผู้นำองค์กรภาคเอกชนมาตลอด เคยเป็นสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา อดีตกรรมการสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทำงานองค์กรการกุศลเป็นรองประธานมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน พัทยา และยังมีส่วนร่วมในการปฏิบัติหน้าที่กู้ภัยในเมืองพัทยาอีกด้วย รวมทั้งดูแลโรงเรียนภายใต้การดูแลของมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน พัทยา และเคยดำรงตำแหน่งอดีตสมาชิกเมืองพัทยามาจากการแต่งตั้งช่วง คสช.

นายสินธ์ไชยกล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมาได้มีการสัมผัสกับชีวิตของชาวเมืองพัทยามาตลอด ตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ และตาย ทำมาหมด รวมทั้งภาคเศรษฐกิจและธุรกิจต่างๆ ในเมืองพัทยา โดยเฉพาะการเป็นสมาชิกสภาเมืองพัทยาได้มีการศึกษาเรียนรู้ระบบราชการเมืองพัทยา ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ทำให้มีองค์ความรู้สามารถมาพัฒนาเมืองพัทยา เหลือเพียงแต่ว่าจะมีโอกาสเข้ามาพัฒนาเมืองพัทยาเท่านั้น เพื่อให้หลุดพ้นปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองพัทยา เบื้องต้นคือปัญหาในเรื่องเศรษฐกิจ ที่ประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับปากท้องของชาวบ้าน เรื่องการศึกษาจะทำอย่างไรให้บุตรหลานของชาวเมืองพัทยา ได้มีโอการพัฒนาทางด้านการศึกษาที่ดีเท่าเทียมภาคเอกชน โดยจะเอาองค์ความรู้ที่มี มาพัฒนาเมืองพัทยาได้เกิดความเจริญก้าวหน้า ส่วนปัญหาน้ำท่วมเมืองพัทยานั้นยอมรับว่า การจะแก้ไขปัญหาให้เบ็ดเสร็จเลย ไม่ให้น้ำท่วมพัทยาคงเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดน้ำท่วมทำอย่างไรให้กลับสู่สภาพเดิม และให้น้ำลดลงเร็วที่สุดนั้น สามารถทำได้แน่นอน โดยอาศัยความร่วมมือจากภาคประชาชน ซึ่งอยู่ในนโยบายของกลุ่มพัทยาร่วมใจอยู่แล้ว

“ส่วนการแข่งขันกับกลุ่มบ้านใหญ่นั้นมองว่า ผมมาเสนอตัวในฐานะคนพื้นที่ คนรุ่นใหม่ และเห็นโอกาสที่เราสามารถจะพัฒนาเมืองพัทยาให้ดีขึ้นกว่าเดิม คิดว่าเราทำได้ จึงได้เสนอตัวมาลงนายกเมืองพัทยา” นายสินธ์ไชยกล่าวและว่า ส่วนการที่จะต้องไปแข่งกับผู้ลงสมัครคณะก้าวหน้านั้น ยอมรับว่าทุกคนจะมีดีในแต่ละด้าน และมีการเสนอจุดแข็งในแต่ละกลุ่ม อยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจว่ากลุ่มไหนจะพึ่งได้ อย่างไรก็ตามตนเองถือว่าอาจจะได้เปรียบหน่อยตรงที่ว่า เป็นคนพัทยาและสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา

Advertisement

นายสินธ์ไชยกล่าวอีกว่า จากการที่ตนเองลงพื้นที่พัทยามาตลอดและอยู่ในองค์กรธุรกิจ รวมทั้งภาคประชาชน ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ทำให้สามารถเข้าถึงประชาชนได้ทุกกลุ่ม ช่วงโควิดที่ผ่านมาได้เข้าช่วยเหลือภาครัฐตลอดมา นำสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปบริจาคให้โรงพยาบาลที่ขาดแคลน เพื่อร่วมการต้านภัยโควิดที่ระบาดในพัทยาอย่างหนัก ถึงแม้ว่าไม่มีตำแหน่งทางการเมืองก็พยายามดูแลประชาชนมาตลอด ก็หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากชาวเมืองพัทยา จากการที่ตัดสินใจสมัครนายกเมืองพัทยาครั้งนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image