คุมตัวกลุ่มรุ่นพี่ทำแผน ชี้จุดรับน้องโหด ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหากลุ่มรุ่นพี่เพิ่มเติมอีกหลายข้อหา
จากกรณี นายพัสยศ ชลภักดี หรือเปรม นักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 สาขาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยนวัตกรรมวิชาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (นครราชสีมา) เสียชีวิตภายหลังร่วมกิจกรรมรับน้องที่มีกลุ่มรุ่นพี่ ปวส.ชั้นปีที่ 2 สาขาเดียวกันแอบจัดนอกสถานที่ เหตุเกิดช่วงกลางดึกวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นตำรวจสอบปากคำกลุ่มรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ และได้แจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มรุ่นพี่ 7 คน ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย โดยทั้ง 7 คน ให้รับทราบข้อกล่าวหา และพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวไป เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้พนักงานสอบสวน สภ.มะเริง อ.เมืองนครราชสีมา ควบคุมตัวรุ่นพี่ทั้ง 7 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณทุ่งนาบ้านโคกมะกอก หมู่ 14 ต.หนองระเวียง อ.เมืองนครราชสีมา โดยใช้เวลาทำแผนประมาณ 15 นาที แล้วปล่อยตัวกลุ่มรุ่นพี่ทั้งหมดกลับไป เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
(ชมคลิป)
พ.ต.อ.คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผู้กำกับการ สภ.มะเริง เปิดเผยความคืบหน้าว่า ขณะนี้พนักงานสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเกือบครบทุกคนแล้ว และได้เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้ได้แจ้งข้อกล่าวหากับกลุ่มรุ่นพี่ 7 คน ที่ลงมือทำร้ายเปรม ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และขณะนี้ได้เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับกลุ่มรุ่นพี่ ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากมีรุ่นน้องบางคนได้รับบาดเจ็บ ข้อหาทำให้ขายหน้าต่อธารกำนัล กรณีสั่งให้รุ่นน้องถอดเสื้อผ้าเปลือยกายล่อนจ้อนขณะทำกิจกรรมรับน้อง และข้อหาความผิดกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดยพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับรุ่นพี่คนใดบ้าง
ขณะที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเตรียมเรียกประชุมคณะกรรมการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมี ผศ.สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มทร.อีสาน เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวน เพื่อพิจารณาขั้นตอนบทลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ที่รับน้องเสียชีวิต โดยจะพิจารณาลงโทษตามระดับความผิดของรุ่นพี่แต่ละคน ซึ่งมีโทษตั้งแต่ตัดคะแนนความประพฤติ พักการเรียน ให้ออก และโทษสูงสุดคือไล่ออก คาดว่าจะสรุปผลแล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์
ด้าน นายศรัณย์ อ่องพิมาย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกมะกอก และเป็นเจ้าของไร่อ้อยที่กลุ่มรุ่นพี่ใช้จัดกิจกรรมรับน้อง เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุช่วงค่ำ ตนเห็นกลุ่มนักศึกษาผ่านเข้ามาในพื้นที่โดยนั่งมาบนรถกระบะหลายคัน แต่ไม่ทราบว่าไปทำอะไรกัน กระทั่งทราบข่าวว่ามีการไปรับน้องในไร่อ้อยของตนเอง ซึ่งตนไม่ได้อนุญาตให้ใช้สถานที่จัดกิจกรรมแต่อย่างใด กำลังปรึกษาญาติว่าอาจต้องแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มรุ่นพี่ในข้อหาบุกรุกใช้สถานที่โดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างกับคนอื่นต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เล็งแจ้งข้อหาเพิ่ม กลุ่มรุ่นพี่ ‘มทร.อีสาน’ รับน้องโหด ขณะที่มหา’ลัยเตรียมลงโทษ
- ‘บิ๊กตู่’ ฮึ่มรับน้องโหด ชี้โซเชียล สร้างความเกลียดชัง ทำสังคมรุนแรงขึ้นทุกวันๆ
