ชาวบ้าน ร้องอุโมงค์ลอดถนนมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ทำน้ำท่วมบ้าน-สวน
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม นายวรรณพงศ์ คล่องแคล่ว รอง ผอ.แขวงทางหลวงนครราชสีมา ที่ 2 พร้อมด้วย นายนิรันดร์ สุขรักขินี ผอ.ส่วนสำรวจและออกแบบ สน.ทางหลวงที่ 10 และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจอุโมงค์ใต้ถนนมอเตอร์เวย์ และพื้นที่ข้างถนนที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน โดยน้ำท่วมบ้านเรือน ไร่สวน ท่วมอุโมงค์ พื้นที่เขต ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยนายวิโรจน์ ศรีสังข์ นายกเทศมนตรีตำบลสีมามงคล ร่วมลงพื้นที่ตรวจด้วย
สืบเนื่องจากชาวบ้านทนไม่ไหวรวมตัวกันร้องเรียน พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) คมนาคม วุฒิสภา โดยหลังประธาน กมธ.คมนาคม วุฒิสภาทราบเรื่องได้เรียกกรมทางหลวงและส่วนที่เกี่ยวข้องประชุมหลายครั้งเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ก็ไม่เป็นผล จนมาครั้งนี้แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 ได้ส่งเจ้าหน้าที่วิศวกรรม ออกตรวจสอบร่วมกับเทศบาลตำบลสีมามงคล เพื่อไปออกแบบเสนอของบประมาณมาแก้ไข ซึ่งขอให้กรมทางหลวงเร่งรัดจัดงบประมาณมาดำเนินการโดยเร่งด่วน
นายวิโรจน์กล่าวว่า การก่อสร้างทางมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-นครราชสีมา ตั้งแต่ปี 2559 และแล้วเสร็จเปิดใช้การได้ประมาณปี 2565 ระยะทาง 196 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 84,600 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่มีท่าทีจะแล้วเสร็จตามกำหนด อาจจะเกิดจากปัญหาการเวนคืนที่ดินในราคาต่ำจากความเป็นจริงมากเกินไปจนชาวบ้านรับไม่ได้ และสาเหตุการสร้างอุโมงค์ทางลอดที่ไม่ได้มาตรฐานการใช้งานได้ตามความเป็นจริง
เหตุที่ต้องมีการตรวจสอบครั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาที่ถนนมอเตอร์เวย์สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน 4 หมู่บ้านของ ต.กลางดง อุโมงค์ที่ลอดถนนมอเตอร์เวย์มีน้ำท่วมขังเมื่อฝนตกหนัก ดินสไลด์ลงไปรวมกับน้ำ ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ สาเหตุจากร่องน้ำคู่ขนานถนน หรือพื้นดินเดิมที่อยู่ข้างถนนมอเตอร์เวย์สูงกว่าอุโมงค์ลอดมอเตอร์เวย์บางช่วงมีถนนคู่ขนาน ชาวบ้านก็ยังใช้เส้นทางเลี่ยงได้ แต่การก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์บางช่วงสร้างขวางทางน้ำ อย่างเช่น หมู่ 9 บ้านเขาพระ เมื่อฝนตกหนักน้ำที่ไหลลงจากภูเขาสีเสียดอ้าจะไหลลงผ่านหมู่บ้าน ผ่านไร่ สวนมะม่วง น้อยหน่า แต่เมื่อสร้างถนนขวางทางน้ำ ทำท่อลอดถนนก็เพียง 2 แถว ไม่เพียงพอที่จะรับน้ำ ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนสูงกว่า 1 เมตร สวนผลไม้ก็ได้รับความเสียหาย
อีกทั้งบางจุดเมื่อฝนตกทำให้ดินสไลด์ลงร่องน้ำข้างถนนมอเตอร์เวย์ ถ้าไม่แก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมชาวบ้านจะเดือดร้อนมากขึ้น เท่าที่ทราบปัญหาเกิดจากการออกแบบไม่ได้ลงตรวจสอบในพื้นที่จริง ทำไปแก้ไป เมื่อเกิดปัญหาเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างถนนคู่ขนานเป็นบางช่วงชาวบ้านเดือดร้อนไม่มีทางออก เป็นที่ตาบอด อีกทั้งราคาเวนคืนก็ต่ำกว่าความเป็นจริง จริงๆ แล้วควรตรวจสอบจากพื้นที่จริงด้วย แก้ไขไปพร้อมกับการออกแบบเลยจะดีกว่า และที่สำคัญอีกอย่างคือการประชุมรับฟังความคิดเห็นก่อนการก่อสร้างก็ใช้บริษัทที่ปรึกษาออกมารับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย เมื่อชาวบ้านสงสัยซักถามข้อเสนอแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่แน่นอน บอกกับชาวบ้านเพียงว่าจะรับปัญหาหรือข้อซักถามกลับไป และทิ้งเวลาให้ผ่านไป แต่ก็ไม่มีคำตอบ หรือการแก้ไขปัญหาใดๆ
จนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต้องร้องไปยัง พล.อ.ยอดยุทธ ประธาน กมธ.คมนาคม วุฒิสภา อย่างจริงจัง จนมาวันนี้แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบร่วมกับเทศบาลตำบลสีมามงคล เพื่อไปออกแบบเสนอของบประมาณมาแก้ไข ซึ่งขอให้กรมทางหลวงเร่งรัดจับงบประมาณมาเนินการโดยเร่งด่วน
