เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ที่ บริเวณศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เครือข่ายสิทธิชุมชนพัฒนาภูเก็ต ( Phuket Community Development Rights Network) นำโดย นายสมจินต์ ชูช่วย คณะทำงานขับเคลื่อนเครือข่ายสิทธิชุมชนพัฒนาภูเก็ต พร้อมสมาชิกเครือข่ายกว่า100 คน ยื่นหนังสือแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรื่อง ขอให้เร่งรัดแก้ไขปัญหาของชุมชนสมาชิกขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ขปส.) ในพื้นที่ จังหวัดภูเก็ต ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ว่าด้วยแนวทางการแก้ไขปัญหาขบวนการประชาชนเพื่อสังศมที่เป็นธรรม (ซปส.) จำนวน 15 กรณี
โดยมี นายสมปราชญ์ ปราบสงคราม ปลัดจังหวัดภูเก็ต นายสุทน ดวงฤทธิ์ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ทสจ.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ได้เจรจาขอรับหนังสือแทนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตที่ปฏิบัติราชการต่างจังหวัด แต่ กลุ่มเครือข่ายฯต้องการยื่นหนังสือแก่ผู้ว่าฯหรือรองผู้ว่าฯเท่านั้น ต่อมา เวลา 10.30น. นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เดินทางมารับหนังสือจากกลุ่มเครือข่ายฯ
นายสมจินต์ กล่าวว่า เครือข่ายสิทธิชุมชนพัฒนาภูเก็ต สมาชิกขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ได้เข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหา ร่วมกับคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(ขปส.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีข้อเสนอแนวทางแก้ปัญหาเพื่อนำเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้มีมติฯ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ว่าด้วยแนวทางการแก้ไขปัญหาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) จำนวน 15 กรณี
ทั้งนี้ในจังหวัดภูเก็ต มีชุมชนที่เกี่ยวข้องหลายชุมชนและหลายกรณี ได้แก่ กรณี ขอให้พิจารณาแนวทางการยกระดับโฉนดชุมชน ตามมาตรา 10 (4) แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ.2562และดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ที่ยื่นขอดำเนินงานโฉนดชุมชนจำนวน 486 ชุมชน เพื่อเป็นพื้นที่นำร่องในการจัดที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชน โดยได้เรียนเชิญรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานจัดงาน “มหกรรมโฉนดขุมชน” ณ จังหวัดภูเกีต หรือ “ปัญหาโฉนดชุมชน” ซึ่งในพื้นที่จังหวัดภูเกีตมีพื้นที่ที่ยื่นเสนอเป็นโฉนดชุมชน จำนวน 17 ชุมชน
กรณีขอให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ ความเห็นชอบให้ชุมชนที่อยู่ระหว่างการแก้ไข ปัญหาที่ดินให้เข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา ทะเบียนบ้าน และปรับปรุงที่อยู่อาศัยได้ ซี่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมีพื้นที่ที่ประสบปัญหาเรื่องการเข้าไม่ถึงสาธารณูปโภคหลายชุมชน
กรณีขอให้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดินของรัฐทุกประเภท โดยเฉพาะที่ดินที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงมหาดไทย 2 ชุมชน คือ ชุมชนปลากะตักพัฒนา ชุมชนท่าเรือใหม่พัฒนา และชุมชนที่ยังอยู่ระหว่างแก้ปัญหา 3 ชุมชน คือ ชุมชนสระต้นโพธิ์ ชุมชนหลังเวทีสะพานหิน และชุมชนต้นโด
ดังนั้น เพื่อให้การแก้ปัญหาของชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบได้รับการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสมและเป็นไปตานมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 ในนามตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบและในนามสมาชิกขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม จึงใคร่ขอความอนุคราะห์จากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ด มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหา และตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่โดยมีตัวแทนของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมด้วยโดยด่วนเพื่อให้การแก้ปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที
ทางด้าน นายสุทน ดวงฤทธิ์ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ทสจ.ภูเก็ต กล่าวกับกลุ่มเครือข่ายฯ ว่า ในส่วนของคทช.ที่จัดกันมาแล้ว ในพื้นที่ป่าชายเลน ที่มีประชาชนเข้าอยู่อาศัยได้เสนอพื้นที่เป้าหมายไปแล้ว 41 ชุมชน ได้ยกเลิกไป 4 ชุมชน เนื่องจากไม่อยู่ในหลักเกณฑ์
อนุญาตให้ใช้พื้นที่แล้ว 16 ชุมชน ที่เหลืออยู่ระหว่างกระบวนการอนุญาตใช้พื้นที่ ซึ่งปี 65 ชุมชนที่ตกค้าง ทางศูนย์บริหารจัดการป่าชายเลนได้สำรวจเสนอเป็นพื้นที่เป้าหมายเพิ่มเติมไปแล้ว แต่คณะอนุจัดหาที่ดินยังไม่ได้กำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมาย ถ้าได้กำหนดมาจะจัดคทช.จังหวัดพิจารณาข้อมูลตามขั้นตอนให้ครบถ้วนเสร็จสิ้นสมบูรณ์
ในชุมชนที่ได้รับอนุญาต ใช้พื้นที่แล้ว ขณะนี้เรื่องสาธารณูปโภคต่างๆ ไฟฟ้า ประปา สามารถดำเนินการได้ เรื่องงบประมาณให้ท้องถิ่นไปยื่นขอในภาพรวม ส่วนที่ยังไม่ได้รับอนุญาต ทางกรมทช.ได้เร่งดำเนินการ ซึ่ง ภูเก็ตได้รับอนุญาตแล้ว 16 ชุมชน และจะพิจารณาตามมา ทางกรมทช.ส่งเงื่อนไขและแผนที่ให้ผู้ว่าลงนามแล้ว 23ชุมชน รอหนังสืออนุญาตมาเพิ่มเติม
ทางด้าน นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า นโยบายโฉนดชุมชนรัฐบาลมีมติดำเนินการในรูปแบบคทช.ได้เร่งรัดในรายละเอียดขั้นตอนดำเนินการต่างๆ ทางจังหวัดไม่ขัดข้องจะรีบนำเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อส่งไปยังรัฐบาลตามขั้นตอนต่อไป
