บึงกาฬสลดหนุ่มลมชักกำเริบล้มทับสายแก็สขณะต้มน้ำร้อนไปราดรถไถถูกไฟเผาย่างสด
เวลาประมาณ 08.30 น. วันที่ 2 เม.ย. ร.ต.อ.ณัฐดล สุวรรณโค ร้อยเวร สภ.โสกก่าม รับแจ้ง จากนางบุณฑริกา อินทร์ทอง ว่ามีเหตุไฟไหม้คนเสียชีวิต จึงรายงานให้ พ.ต.ท.ธนาตรี ศรีลุนช่าง สว.สภ.โสกก่าม ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ประสาน พญ.ธนานันท์ หอมแพน แพทย์เวรโรงพยาบาลเซกา กู้ภัยสว่างฯจุดโสกก่าม และจุดบึงโขงหลง เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงบริเวณหลังบ้านส่วนที่เป็นห้องครัว พบร่างชายถูกไฟเผา สภาพไหม้เกรียมเกือบทั้งตัว ท่อนล่างขาข้างขวายังเหลือเศษซากกางเกงวอมขายาวเลยขึ้นเหนือเข่า ส่วนขาข้างซ้ายกำลังเริ่มไหม้ นอนหงายอยู่หน้าเตาแก็ส แบบขาตั้งพื้นสแตนเลสแบบ 1 หัว ลักษณะเตาแก๊สตั้งอยู่หัวมุมห้องครัว ส่วนถังแก็สตั้งห่างกันประมาณ 1.5 เมตร โดยหันหน้าเข้าหาเตาแก็ส ร่างถูกไฟเผาจนบางส่วนเห็นกระดูกแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องเอาผ้าขาวคลุมไว้ ขณะรอการสอบสวน ทราบชื่อต่อมาคือ นายณัฏฐ์ธนัน อายุ 47 ปี หมู่ที่ 1 บ้านโสกก่าม ต.โสกก่าม อ.เซกา จ.บึงกาฬ
จากการสอบถามภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนเองและลูกสาวได้ไปเก็บยางพาราก้อนถ้วยเพื่อนำไปขาย ซึ่งอยู่ข้างบ้านห่างออกไปราว 50 เมตร ขณะนั้นตนเองมองเห็นควันไฟและประกายไฟมาจากหลังบ้าน ก็เลยชวนลูกสาวรีบวิ่งมาดู เห็นไฟกำลังลุกไหม้ท่วมตัวของสามี โดยมีประกายไฟพุ่งออกมาจากถังแก็ส จึงรีบใช้ผ้าที่วางอยู่ใกล้ๆ ปิดวาล์วแก๊สเพราะตอนนั้นไฟพุ่งออกมาจากตรงวาล์วถังแก๊ส เมื่อปิดวาล์วรีบวิ่งออกไปตะโกนให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงมาช่วย ซึ่งก็พบว่าสามีถูกไฟเผาไหม้เกรียบตายไปแล้ว
ปกติสามีมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เป็นโรคลมชักหมดสติ ส่วนสาเหตุน่าจะมาจาก สามีจะนำรถไถไปบรรทุกขี้ยางก้อนถ้วยที่ตนและลูกสาวกำลังเก็บเพื่อนำไปขาย แต่รถไถสตาร์ตไม่ติดจึงมาต้มน้ำให้ร้อน ก่อนจะนำน้ำร้อนไปราดใส่เครื่องยนต์รถไถให้เครื่องมันอุ่นขึ้น เพราะมันสตาร์ตติดยาก ทุกครั้งที่จะสตาร์ตรถไถ สามีจะต้องมาต้มน้ำร้อนไปราดตัวเครื่องก่อน ประกอบกับวันนี้อากาศเย็นลงยิ่งทำให้รถไถติดยาก คาดว่าขณะที่ต้มน้ำอยู่โรคลมชักสามีกำเริบทำให้ล้มลงหมดสติ และล้มลงไปทับเอาสายแก็สที่พ่วงมาหาเตา จนทำให้สายหลุดจากวาล์วถังแก๊ส ประกอบกับวาล์วถังแก็สหันไปทางสามีที่ล้มลง และเกิดมีประกายไฟลุกไหม้ท่วมตัวของสามี และผู้ตายก็ไม่รู้สึกเพราะหมดสติจากอาการที่เป็นลมชัก
ด้านร้อยเวรได้สอบปากคำภรรยาผู้ตาย และถ่ายภาพเก็บหลักฐาน สอบถามญาติผู้ตายไม่มีการติดใจถึงสาเหตุการตาย จึงมอบร่างผู้เสียชีวิต ให้ญาตินำไปบำเพ็ญพิธีทางศาสนาต่อไป
