วิสาหกิจชุมชนภูเก็ต เปิดเมนูเครื่องแกงกัญชาขายดีวันละกว่า 60 กิโล ในปลดล็อกกัญชา กัญชงที่ระนอง เจ้าของไอเดีย เผยจุดเริ่มต้นครอบครัวเป็นมะเร็งใช้กัญชาช่วยรักษาลดค่าใช้จ่าย ใช้กัญชาผสมขิง ข่า ตะไคร้ ทำอาหารต้มยำในบ้านขยายสู่เครื่องแกงยืนยันไม่อันตราย
เมื่อวันที่ 23 เมษายน ในงานวิชาการ กัญชาทางการแพทย์ : ปลดล็อกกัญชา กัญชง สร้างสุขภาพ สร้างรายได้ ในเขตสุขภาพที่ 11 จ.ระนอง ที่หอประชุมโรงเรียนพิชัยรัตนาคาร อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งขึ้นจัดระหว่างวันที่ 22-24 เมษายน 2565 โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ประกอบด้วย คลินิกกัญชาทางการแพทย์ ทั้งแพทย์แผนไทยและแผนปัจจุบัน การสาธิตการปลูก การนำกัญชา กัญชง มาใช้ในระดับครัวเรือน การออกบูธแสดงผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชง ทั้งอาหารคาว หวาน น้ำเพื่อสุขภาพ ยาและเวชภัณฑ์ เครื่องสำอางหลากหลายชนิด อาทิ ปังคึกคัก ไจแอนท์ร่าเริงกัญ ซาลาเปากัญชา คราฟต์โซดา คุกกี้กัญชา น้ำรักกัญ เคลิ้มกาละแม และเครื่องดื่มกัญชา เป็นต้น ซึ่งได้มีประชาชนชาวระนองและจังหวัดใกล้เคียงให้ความสนใจทยอยเดินทางชมนิทรรศการและเลือกซื้อสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชง อย่างต่อเนื่อง
สำหรับบรรยากาศของงานในวันนี้ที่บูธกัญชาภูเก็ต โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต วิสาหกิจชุมชนเกษตรสมุนไพรไทยภูเก็ต วิสาหกิจชุมชนลุ่มไทรเกษตรวิถีไทย วิสาหกิจสมุนไพรภูเก็ต วิสาหกิจชุมชนสมุนไพรและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (ภูเก็ต) ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชงหลายประเภท อาทิ สปาภูเก็ตที่ใช้โปรดักต์ กัญชา กัญชง โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจมากอีกชนิดคือ เครื่องแกงที่มีส่วนผสมจากกัญชา ทั้งแกงส้ม แกงพริก แกงเขียวหวาน
น.ส.วรรดี เพชรชู ประธานวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (ภูเก็ต) กล่าวว่า เครื่องแกงหรือการทำอาหารที่มีกัญชาเป็นส่วนผสมนั้นมีตั้งแต่สมัยโบราณก่อนวัฒนธรรมตะวันตกจะเข้ามาและมีประกาศว่ากัญชาเป็นยาเสพติด ประเทศไทยเรามีการใช้กัญชาทำอาหารมาก่อน โดยเครื่องปรุง เช่น พริกไทย หรือกัญชา เมื่อมาผสมกันเราจะพบว่ามันจะมีความพอดีกันและไม่เป็นพิษต่อผู้บริโภค เพราะกัญชาเป็นตัวยาที่รักษาโรคที่เพิ่มเข้ามาคือความอร่อยของอาหาร ส่วนพริกไทยจะเป็นลักษณะส่วนของการแก้ ถ้ามีกรณีคนที่เมาจะเป็นตัวยาที่ผสมผสานได้เป็นอย่างดี
น.ส.วรรดีกล่าวว่า ถ้านำส่วนผสมนี้ไปแกงส้มก็จะมีพริก กระเทียม ผสมเครื่องกัญชา เกลือลงไป กรณีแกงส้มเมื่อใส่มะนาวลงไปก็จะไปช่วยแก้กัญชากรณีมีคนที่มีอาการแพ้หรือเมา ซึ่งในสูตรอาหารหรือตำรับเครื่องของไทยจะแก้ไปซึ่งกันและกัน แต่ช่วยได้เรื่องของสุขภาพและรักษาความสมดุลระหว่างกันด้วยตัวเอง ดังนั้นในโมเมนต์ทางเคมีจึงไม่เป็นอันตราย เพราะสมุนไพรแก้กันได้ด้วยสมุนไพรเองจึงคิดเป็นสูตรสมุนไพรเครื่องแกงจากัญชา
“ในวันนี้เราอยากให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี และยอมรับว่าการเริ่มทำธุรกิจกัญชามาจากครอบครัวเคยเป็นโรคมะเร็งได้พยายามรักษาคนในครอบครัว และไม่อยากให้คนไทยเป็นมะเร็ง โดยครอบครัวได้นำสมุนไพร ขิง ข่า ตะไคร้ ขมิ้น และกัญชา มาผสมกันในการรักษาจนหายป่วยจึงอยากให้คนอื่นนำไปใช้รักษาบ้าง” น.ส.วรรดีกล่าว
น.ส.วรรดีกล่าวว่า การตอบรับเรื่องกัญชา ขณะนี้ตลาดอยู่ที่ไหนเราก็จะไปสาธิตไปขายที่นั้น ซึ่งพริกแกง (เครื่องแกง) วันนี้ของเราทำสดไม่มีสารกันบูด ดังนั้น การส่งตลาดเครื่องแกงกัญชาในตอนนี้มีทั้งที่ภูเก็ต ชุมพร และระนอง ในงานนี้ที่มาเปิดตัวซึ่งถือว่าที่ระนองมีผลตอบรับดีมากขายได้วันละ 60 กิโลกรัมขึ้นไป ส่วนอย่างอื่นยังอยากพัฒนากัญชาไปอยู่ในส่วนผสมของข้าวโดยมีเป้าหมายคืออยากให้คนไทยมีสุขภาพดีไม่เป็นมะเร็ง
“ซึ่งครอบครัวของเราเคยมีประสบการณ์ต้องจ่ายค่ายารักษามะเร็งเดือนละแสนบาท แต่ตอนนี้เราลดตัวยาเหลือจ่ายเดือนละ 2 หมื่นบาท แล้วมากินกัญชาแบบบำรุง กินกิ่งก้านรากใบ ทำให้ลดตัวยาน้อยลงได้ เช่นเครื่องต้มยำ ขิง ข่า ตะไคร้ เราใช้ทำอาหารทุกวันอยู่แล้วเพียงแต่เพิ่มกัญชาเข้าไปเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นอะไรที่เป็นเรื่องใกล้ตัว และใช้ได้จริงไม่เป็นอันตราย จึงเป็นที่มาการนำกัญชามาทำเครื่องแกง” น.ส.วรรดีกล่าวในที่สุด
