พายุมาตามนัด ถล่มเทศบาลตำบลเชียงยืนเสียหายกว่าร้อยหลังคาเรือน
พายุฤดูร้อนมาตามนัด ทำเขตเทศบาลตำบลเชียงยืนเสียหายหนัก บ้านเรือนราษฎรเสียหายกว่าร้อยหลังคาเรือน เสาไฟฟ้าหัก ต้นไม้ใหญ่ล้มทับสายไฟ ทำไฟดับเกือบทั้งเทศบาล
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เขตเทศบาลตำบลเชียงยืน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม สำรวจบ้านเรือนราษฎรที่เสียหายจากพายุฤดูร้อน โดยเฉพาะ 5 หมู่บ้านในเขตเทศบาลตำบลเชียงยืน ประกอบด้วยหมู่ 3, 4, 5, 18 และหมู่ 19 บ้านเชียงยืนเกิดฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง ทำให้มีบ้านเรือนราษฎรเสียหายกว่าร้อยหลังคาเรือน บางบ้านหลังคาหลุดปลิวออกไปเกือบทั้งหลัง แรงลมพัดหลังคาสังกะสีปลิวไปไกลกว่าร้อยเมตร
ส่วนในซอยสุขาภิบาล 7 แรงลมพัดหลังคาสังกะสีปลิวหลุดออกมาทั้งหลังไปฟาดกับสายไฟ ทำให้เสาไฟฟ้าหักครึ่ง สังกะสีแบบสรรไทติดคากับสายไฟ บางส่วนปลิวไปติดกับต้นมะม่วง ส่วนบริเวณข้างวัดกลางเชียงยืน แรงลมพัดเสาไฟฟ้าหักโค่น นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ใหญ่ล้มทับสายไฟฟ้าแรงสูง ทำให้ไฟฟ้าดับที่ฝั่งทางโรงเรียนบ้านเชียงยืนทั้งแถบ โดยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้เข้าพื้นที่เร่งแก้ไข เพื่อให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้ภายในคืนนี้
นายสุขสันต์ รัตนทิพย์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 หมู่ 19 บ้านเชียงยืน ต.เชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ลมพัดมาทางทิศเหนือ ทั้งลมทั้งฝนหอบเอาหลังคาบ้านของตนที่มุงด้วยสังกะสีหลุดออกไปเกือบทั้งหมด ปลิวไปไกลกว่าร้อยเมตร ส่วนข้างบ้านแรงลมก็พัดหลังคาปลิวออกไปเช่นกัน เหมือนตรงนี้จะเป็นช่องลม เพราะบ้านฝั่งตรงข้ามไม่เป็นอะไรเลย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้มาก่อน ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับบ้านของตน
ด้าน นายชาญวิทย์ พุดบุรี นายกเทศมนตรีตำบลเชียงยืน กล่าวว่า หลังจากพายุสงบก็ได้ออกสำรวจความเสียหายของพี่น้องประชาชน เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีบ้านเรือนราษฎรเสียหายมากน้อยต่างกัน ประมาณ 100 หลังคาเรือน มีเสาไฟฟ้าหักโค่น ต้นไม้ล้มขวางถนน มีไฟฟ้าดับ ก็ได้เจ้าหน้าที่งานป้องกัน กองช่าง ลงพื้นที่ตัดต้นไม้ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าตัดไฟในจุดที่อันตราย และเร่งซ่อมในจุดที่เสียหาย เพื่อให้ประชาชนกลับมามีไฟฟ้าใช้ภายในคืนนี้ โดยสภาพทั่วไปในพื้นที่อำเภอเชียงยืน อากาศร้อนจัดมา 4-5 วันติดกันแล้ว อุณหภูมิอยู่ที่ 39-40 องศาเซลเซียส เมื่อความร้อนสะสมมากขึ้นก็ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนดังกล่าว
